เอพี - เนชันแนล จีโอกราฟิก ปรับปรุงแผนที่ครั้งใหญ่กว่า 15,000 จุด เพื่อให้มีความทันสมัยทันกับความเปลี่ยนแปลงบนโลกทั้งทางด้านภูมิศาสตร์และทางด้านการเมือง ผสมผสานกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้วยข้อมูลชุมชนแผนที่ออนไลน์ทั่วโลกและมุมมองแผนที่ออนไลน์ที่ชัดสมจริงในเวอร์ชันล่าสุดนี้
เส้นสาย และลวดลายที่ลบเลือนไปจากแผนที่ยุคกลางซึ่งเป็นภาพวาดที่แปลกประหลาดของมหาสมุทรที่เราไม่เคยรู้จัก ได้เข้ามาสู่เทคโนโลยีการพิมพ์อันทันสมัย เนื่องมาจากแผนที่เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเรื่อยมา ในขณะนี้เนชันแนล จีโอกราฟิก (National Geographic) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการแผนที่กำลังปรับปรุงแผนที่โลกขนาดใหญ่ให้ทันสมัยมากขึ้น สอดคล้องกับประเทศบนโลกในปัจจุบัน
ทั้งนี้ แอเลน คารอล (Allen Carroll) นักเขียนแผนที่แห่งสมาคมเนชันแนล จีโอกราฟฟิก กล่าวพร้อมทั้งเปิดเผยว่า แผนที่รุ่นคลาสสิกซึ่งอัพเดทมาจากเวอร์ชันที่แล้วและมีการเปลี่ยนแปลงมากถึง 15,000 จุด อยู่ในหนังสือแผนที่โลก (Atlas of the World) พิมพ์เป็นครั้งที่ 8 มีจำนวน 416 หน้า ราคา 165 ดอลลาร์สหรัฐ จะเริ่มออกวางขายในวันที่ 14 ต.ค. นี้
แผนที่โลกเวอร์ชันใหม่นี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ เริ่มด้วย จุดที่สูงที่สุดของโลกซึ่งก็คือ ยอดเขาเอเวอร์เรตส์ (Mount Everest) ซึ่งมีความสูง 29,035 ฟุต ตอนนี้มีความสูงเพิ่มมากขึ้นอีก 7 ฟุตจากที่วัดครั้งก่อน ส่วนจุดที่ต่ำที่สุดของโลก นั่นก็คือ ทะเลเดดซี (Dead Sea) จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,365 ฟุต แต่ตอนนี้ต่ำลงไปอีก 26 ฟุต เพราะว่าปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มมากขึ้นในดินแดนแถบนั้น และที่สำคัญโลกของเราก็มีประเทศน้องใหม่อย่าง “ติมอร์ตะวันออก” (East Timor) เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2002 ที่ติมอร์ได้รับเอกราชจากอินโดนีเซีย
นอกจากนั้นยังมีส่วนที่แสดงตำแหน่งของระยะห่างของเส้นทางคมนาคมในครั้งแรก ในแผนที่ใหม่นี้ ได้กำหนดพรมแดนใหม่ระหว่างเยเมนและซาอุดิอารเบีย และยังมีการแบ่งเขตการบริหารการปกครองใหม่ในสโลวาเกียและสาธารณรัฐเชค เส้นชายฝั่งทะเลใหม่สำหรับทะเลสาบชาด ( Lake Chad ) และทะเลอารัล (Aral Sea)
ในคาซัคสถาน การเคลื่อนตัวของธารน้ำแข็งในขั้วโลกและยังเปลี่ยนชื่อเมืองกัลกัตตา(Calcutta) ของอินเดียไปเป็นเมืองโคลคาตา ( Kolkata )
ภายในเล่มยังแนะนำแหล่งชุมชนแผนที่ออนไลน์ซึ่งทันสมัยอยู่เสมอและแผนที่ในเวปไซต์เหล่านี้สามารถพรินท์ออกมาได้ และยังสามารถเข้าไปในรายละเอียดของแผนที่ได้มากขึ้นในสถานที่หลายแห่งทั่วโลก ผู้ชมยังสามารถดูโลกที่หมุนราวกับมีเมฆลอยอยู่รอบ ๆ โลก เช่น สามารถตรวจสอบอุณหภูมิเหนือพื้นผิวทะเลและภูมิศาสตร์กายภาพ และยังสามารถซูมรายละเอียดได้ใกล้ชิดในสถานที่สำคัญ ๆ เช่น พระราชวังบัคกิงแฮม (Buckingham Palace) ในกรุงลอนดอน หรือรัฐสภาสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ในส่วนของแผนที่ทางรัฐศาสตร์ขนาดใหญ่ ก็มีการเพิ่มเติมเรื่องพื้นที่ป่า ประชากรและพลังงาน การขนส่งและการสื่อสาร และพื้นที่ ๆ มีความขัดแย้ง และพื้นที่ก่อการร้าย
นอกจากนั้นหลาย ๆ ส่วนของแผนที่ก็ปรับปรุงให้ทันสมัย ซึ่งรวมถึงเมือง ที่ได้ลงรายละเอียดของแผนที่ถนนในดาวน์ทาวน์พร้อมทั้งรูปภาพประกอบอีกมากมายสำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปชมรายละเอียดแผนที่รุ่นต่าง ๆ ของ National Geographic ได้ที่ http://www.nationalgeographic.com/maps