ปริศนาดวงอาทิตย์จาก "เจเนซิส" อาจต้องรอไกลถึงทศวรรษหน้า

เอพี - ตัวอย่างเป็นพัน ๆ ชิ้นจากแคปซูลอวกาศ “เจเนซิส” ได้กลับมาถึงศูนย์อวกาศจอห์นสันแล้ว โดยหวังว่าจะสามารถเผยถึงกำเนิดของระบบสุริยะจากร่องรอยที่เหลืออยู่ แต่ยังคงติดปัญหาการกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่คิด ซ้ำความหวังยังฝากไว้กับเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยเก็บข้อมูลส่วนหนึ่งให้นักวิทยาศาสตร์ของทศวรรษหน้ากับเทคนิกที่ดีกว่าในการไขปริศนา

หลักฐานจากแผ่นเวเฟอร์ทั้ง 5 แผ่นที่เก็บมาได้จากแผ่นแคปซูล "เจเนซิส" ที่กระแทกสู่พื้นโลก ในเดือนที่แล้วเป็นตัวอย่างของ อะตอมและไอออนส์ (ions) จากลมสุริยะ บางชิ้นบรรจุเวเฟอร์มากกว่า 96 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยซิลิโคน ทองคำ แซฟไฟร์ และธาตุเจอเมเนียม อะตอมเป็นล้าน ๆ อะตอมที่ถูกดักจับรวมกันแล้วไม่ใหญ่มากไปกว่าเกลือสัก 2-3 เม็ด ถูกเก็บเอาไว้ตั้งแต่แคปซูลปล่อยไปสู่อวกาศในปี 2001 สามารถอธิบายถึงที่มาของดวงอาทิตย์ซึ่งมีอายุกว่า 4.5 พันล้านปี และยังเป็นร่องรอยช่วยค้นหาว่าดวงอาทิตย์มีการเก็บพลังงานอย่างไร

“มีร่องรอยเกือบ 3,000 ร่องรอยสำหรับบรรจุชิ้นส่วนของเวเฟอร์(Wafer )” ไอรีน สแตนเบอรี ( Eileen Stansbery) ผู้ช่วย ผอ.ค้นคว้าวิจัยทางด้านวัสดุจากท้องฟ้าเผย หลังจากที่เจเนิซิสถูกส่งกลับมาจากบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน เจ้าของประดิษฐ์กรรมยานอวกาศลำน้อยในภารกิจเก็บข้อมูลจากดวงอาทิตย์

คอนเทนเนอร์ได้รับการเก็บรักษาไว้ในห้องล็อคไว้อย่างดีในศูนย์อวกาศจนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์สามารถคิดได้ออกว่าจะกำจัดสารปนเปื้อนออกไปได้อย่างไร เพื่อที่ห้องทดลองจะได้สะอาดมากกว่านี้ เพราะเวเฟอร์ทั้ง 350 ชิ้นที่ถูกจับไว้ในดิสก์ 5 แผ่นที่เปิดรับลมสุริยะระหว่างปฏิบัติภารกิจหลายชิ้น เกิดรอยแยกเมื่อแคปซูลกระแทกลงกับพื้นที่ความเร็วเกือบ 200 ไมล์ต่อ ชม. จากสาเหตุที่ร่มชูชีพของเจเนซิสไม่กางขณะที่กำลังดิ่งลงสู่พื้นโลก ทำให้ดิสก์ที่อุตส่าห์เก็บสะสมมากว่า 2 ปีปักลงบนผืนทะเลทราย ต้องปนเปื้อนด้วยโคลน เกลือ

“เราเดินทางไกลเพื่อนำเศษชิ้นส่วนของดวงอาทิตย์กลับมา และตอนนี้เราก็มีชิ้นส่วนนั้นอยู่ในมือแล้ว” สแตนเบอรี กล่าว พร้อมกับชี้แจงว่า พวกเขาต้องหารือกับเหล่านักวิทยาศาสตร์เพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากความแตกต่างของเทคนิคการทำความสะอาดและเทคโนโลยีการกำจัดสิ่งสกปรก

“กรอบของเวลาจะยาวนานหลายเดือน มากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในตอนแรกที่เราเก็บรวบรวมตัวอย่างมายังวงการวิทยาศาสตร์เสียอีก ข่าวดีก็คือ ตัวอย่างที่เราไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตอนนี้ จะยังหลงเหลือพอสำหรับนักวิจัยในอีก 10 ปีข้างหน้า แม้ว่าขั้นตอนในการตระเตรียมเพื่องานวิจัยจะใช้เวลายาวนานกว่าที่คิดไว้ ศูนย์อวกาศจอห์นสันจะเก็บรักษาวัตถุตัวอย่างเป็นอย่างดีเพื่อการวิจัย ศึกษาในอนาคต ซึ่งความหวังนั้นคือ นักวิทยาศาสตร์จะสามารถตรวจสอบร่องรอยของดวงอาทิตย์ได้โดยการตรวจสอบไอโซโทปของออกซิเจนในลมสุริยะ ” สแตนเบอรี กล่าว

“ถ้าเราใส่ร่องรอยเล็ก ๆ ไว้ด้วยกัน จะช่วยทำให้เห็นภาพว่าระบบสุริยะเกิดจากอะไรและเกี่ยวข้องกันอย่างไร ไม่ต้องสงสัยเลยล่ะว่าเรากำลังจะได้ใช้ประโยชน์มหาศาลจากร่องรอยเหล่านั้น” สแตนเบอรี กล่าวทิ้งท้าย

รายละเอียดของโครงการเจเนซิส
http://www.genesismission.org