สำนักข่าวไทย - สถาบันวิจัยเพื่อสันติภาพออกเตือนนักพันธุกรรมศาสตร์ที่กำลังวิจัยยีนกันทั่วโลก ระวังอีกด้านของความก้าวหน้าอาจทำให้ผู้ไม่หวังดีนำไปผลิตอาวุธชีวภาพ ทำลายล้างคนเฉพาะกลุ่มได้
สถาบันวิจัยเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศของสวีเดนตีพิมพ์รายงานประจำปีศึกษาความก้าวหน้าของแขนงวิชาพันธุศาสตร์ ว่าเป็นดาบสองคม ทางหนึ่ง ความก้าวหน้าของวิชาพันธุศาสตร์ เช่น ความสำเร็จในการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ และเข้าใจการทำงานของแต่ละหน่วยพันธุกรรม จะทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนายารักษาโรคระบบประสาทและหัวใจได้ดีขึ้น
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ความก้าวหน้าของความรู้ด้านนี้เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดี เช่น ผู้ก่อการร้าย นำความรู้ดังกล่าวไปพัฒนาอาวุธประสิทธิภาพสูงที่สามารถทำลายล้างมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นางบาร์บารา โรเซนเบิร์ก ประธานสมาคมนักวิทยาศาสตร์ด้านอาวุธชีวภาพและเคมี ของศูนย์ควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายอาวุธ กล่าวว่า การศึกษาพันธุกรรมมนุษย์อาจทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถผลิตอาวุธชีวภาพที่มีความสามารถทำลายล้างคนบางเผ่าพันธุ์ได้
นางโรเซนเบิร์ก กล่าวว่า โลกทุกวันนี้ แทบไม่มีใครที่เป็นเชื้อพันธุ์บริสุทธิ์ของคนเผ่าพันธุ์หนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มคนที่มียีนเฉพาะ ที่กลุ่มคนอื่น ๆ ในโลกไม่มี ดังนั้น ผู้ก่อการร้ายที่ไม่พอใจคนกลุ่มหนึ่งสามารถประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์พันธุศาสตร์มาพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธชีวพันธุกรรมที่มีความสามารถทำลายล้างคนเฉพาะกลุ่มได้ เรื่องนี้เป็นไปได้สูงยิ่ง
เนื่องจาก ความก้าวหน้าในการศึกษาวิชาพันธุศาสตร์มนุษย์ทำให้นักวิทยาศาสตร์เรียนรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า คนแต่ละคนมียีนที่แตกต่างกัน และความแตกต่างนี้มีผลไปถึงระดับโมเลกุลในตัวมนุษย์และสัตว์อื่น ๆ ความรู้เรื่องนี้จะทำให้แพทย์เข้าใจโรคที่เกิดกับคน ๆ หนึ่งมากขึ้น และสามารถแสวงหาวิธีการรักษาโรคที่เป็นการเฉพาะตัวได้ แต่ในทางกลับกัน หากผู้ไม่หวังดีล่วงรู้องค์ประกอบยีนของคน ๆ หนึ่ง หรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของการโจมตีแล้ว ผู้ก่อการร้ายสามารถนำความรู้นี้มาพัฒนาอาวุธที่มีความสามารถทำลายล้างเฉพาะตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลได้เช่นกัน
สถาบันวิจัยเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศของสวีเดนตีพิมพ์รายงานประจำปีศึกษาความก้าวหน้าของแขนงวิชาพันธุศาสตร์ ว่าเป็นดาบสองคม ทางหนึ่ง ความก้าวหน้าของวิชาพันธุศาสตร์ เช่น ความสำเร็จในการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ และเข้าใจการทำงานของแต่ละหน่วยพันธุกรรม จะทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนายารักษาโรคระบบประสาทและหัวใจได้ดีขึ้น
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ความก้าวหน้าของความรู้ด้านนี้เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดี เช่น ผู้ก่อการร้าย นำความรู้ดังกล่าวไปพัฒนาอาวุธประสิทธิภาพสูงที่สามารถทำลายล้างมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นางบาร์บารา โรเซนเบิร์ก ประธานสมาคมนักวิทยาศาสตร์ด้านอาวุธชีวภาพและเคมี ของศูนย์ควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายอาวุธ กล่าวว่า การศึกษาพันธุกรรมมนุษย์อาจทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถผลิตอาวุธชีวภาพที่มีความสามารถทำลายล้างคนบางเผ่าพันธุ์ได้
นางโรเซนเบิร์ก กล่าวว่า โลกทุกวันนี้ แทบไม่มีใครที่เป็นเชื้อพันธุ์บริสุทธิ์ของคนเผ่าพันธุ์หนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มคนที่มียีนเฉพาะ ที่กลุ่มคนอื่น ๆ ในโลกไม่มี ดังนั้น ผู้ก่อการร้ายที่ไม่พอใจคนกลุ่มหนึ่งสามารถประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์พันธุศาสตร์มาพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธชีวพันธุกรรมที่มีความสามารถทำลายล้างคนเฉพาะกลุ่มได้ เรื่องนี้เป็นไปได้สูงยิ่ง
เนื่องจาก ความก้าวหน้าในการศึกษาวิชาพันธุศาสตร์มนุษย์ทำให้นักวิทยาศาสตร์เรียนรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า คนแต่ละคนมียีนที่แตกต่างกัน และความแตกต่างนี้มีผลไปถึงระดับโมเลกุลในตัวมนุษย์และสัตว์อื่น ๆ ความรู้เรื่องนี้จะทำให้แพทย์เข้าใจโรคที่เกิดกับคน ๆ หนึ่งมากขึ้น และสามารถแสวงหาวิธีการรักษาโรคที่เป็นการเฉพาะตัวได้ แต่ในทางกลับกัน หากผู้ไม่หวังดีล่วงรู้องค์ประกอบยีนของคน ๆ หนึ่ง หรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของการโจมตีแล้ว ผู้ก่อการร้ายสามารถนำความรู้นี้มาพัฒนาอาวุธที่มีความสามารถทำลายล้างเฉพาะตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลได้เช่นกัน