“หมอปัตพงษ์” ยกกรณีศึกษาแคนาดาประเทศที่ 2 ของโลกที่มีกฎหมายอนุญาตให้ประชาชนปลูก ครอบครอง ใช้กัญชาได้อย่างเสรี เมื่อ 6 ปีก่อน หลังจากศาลมีคำพิพากษาว่ากฎหมายยาเสพติดที่เกี่ยวกับกัญชาที่มีอยู่ก่อนหน้านั้น ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขณะที่ในไทยยังมีความพยายามสกัดกั้นการเข้าถึงกัญชา โดยการใช้ข้อมูลที่ลำเอียง การต่อสู้ของผู้ป่วยและประชาชนโดยการพึ่งอำนาจศาลน่าจะเป็นทางออกอย่างหนึ่ง
รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ หน่วยเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เขียนบทความเรื่อง “คนแคนาดาเข้าถึงกัญชาได้เสรี เพราะคำพิพากษาของศาล” มีรายละเอียดดังนี้
ประเทศแคนาดาเป็นประเทศที่สองในโลกที่แก้กฎหมายอนุญาตให้ประชาชนปลูก ครอบครอง และใช้กัญชาได้อย่างเสรี เมื่อ 6 ปีมาแล้ว ต่อจากประเทศอุรุกวัย แต่กว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้นั้นต้องผ่านการต่อสู้ของผู้ป่วยและประชาชนอย่างเข้มข้น มานานนับ 20 ปี วิธีการต่อสู้อย่างหนึ่ง คือ การพึ่งอำนาจของศาลสถิตยุติธรรม คำตัดสินของศาล ชี้ว่า “กฎหมายยาเสพติดที่เกี่ยวกับกัญชา ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลบังคับใช้” และสั่งให้รัฐบาลแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้ประชาชนสามารถปลูก ครอบครอง และใช้กัญชาได้
ความฉ้อฉลของกระบวนการทำให้กัญชาเป็นยาเสพติด
กัญชารับใช้มวลมนุษยชาติมาไม่ต่ำกว่า 12,000 ปี ทั้งเป็นยา เป็นอาหาร และเครื่องใช้ต่างๆ แต่ถูกกระบวนการใส่ร้ายป้ายสี ด้วยข้อมูลเท็จ จัดฉาก เกินจริง พอประชาชนหลงเชื่อ ก็ออกกฎหมายจัดให้กัญชาเป็นยาเสพติด เพื่อทำลายความสามารถในการพึ่งพาตนเองของประชาชน ผู้เขียนเคยสรุปเรื่องไว้เป็นบทความ [1][2][3]
การต่อสู้ของชาวแคนาดา
ผู้ป่วยและผู้ใช้กัญชาชาวแคนาดา ถูกจับกุมจำนวนปีละมากกว่า 70,000 คน เพียงเพราะครอบครองกัญชา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ก่ออาชญากรรมใดๆ ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสทั้งครอบครัว เกิดกระแสสังคมเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายยาเสพติด จนกระทั่งมีคำตัดสินสำคัญของศาลแคนาดา ทั้งระดับจังหวัดและศาลสูง ให้ประชาชนสามารถครอบครอง ปลูก และใช้กัญชาได้ [4][5][6][7]
มีคำตัดสินของศาลในช่วงเวลาต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
ปี พ.ศ.2543 (เมื่อ 24 ปีมาแล้ว): คำพิพากษาศาลจังหวัดออนทาริโอ
นายปาร์คเกอร์ เป็นผู้ป่วยโรคลมชักขั้นรุนแรงตั้งแต่เด็กและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เคยได้รับการรักษาด้วยยาและการผ่าตัด ก็ไม่หายชัก ต่อมาเขาลองสูบกัญชาแห้ง ปรากฏว่าช่วยลดอาการชักได้เป็นอย่างดี เขาจึงปลูกกัญชาเอาไว้รักษาตนเอง จึงถูกตำรวจจับกุม ส่งฟ้องศาล ศาลตัดสินว่า บุคคลทุกคนที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ย่อมมีสิทธิ์ครอบครองกัญชาเพื่อใช้รักษาตนเองได้ บทบัญญัติเรื่องกัญชาตามกฎหมายยาเสพติด จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลบังคับใช้ ศาลตัดสินยกฟ้อง
ผลจากคดีนี้ทำให้รัฐบาลแคนาดาต้องออกกฎระเบียบให้มีการเข้าถึงกัญชาเพื่อการแพทย์ ให้แพทย์สั่งจ่ายยากัญชา แต่ยังจัดให้กัญชาเป็นยาเสพติด ผู้ป่วยจึงยังเข้าถึงยากัญชาอย่างยากลำบาก ยังคงมีการจับกุมผู้ครอบครองกัญชาสูงถึงปีละ 70,000 คน
ปี พ.ศ.2550 (เมื่อ 17 ปีมาแล้ว): คำพิพากษาของศาลจังหวัดออนทาริโอ
ต่อมารัฐบาลแคนาดาผ่อนคลายกฎระเบียบเรื่องกัญชามากขึ้น กำหนดให้ผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์สามารถปลูกกัญชาใช้เองได้ หรือปลูกโดยบุคคลที่ผู้ป่วยมอบหมาย หรือโดยผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งตอนนั้นมีเพียงรายเดียวเท่านั้นและตั้งอยู่ในจังหวัดที่ห่างไกล แต่กัญชายังเป็นยาเสพติด ผู้ป่วยจึงยังเข้าถึงยากัญชาอย่างยากลำบาก ยังคงมีการจับกุมผู้ครอบครองกัญชาสูงถึงปีละ 6-7 หมื่นคน
จึงมีผู้ฟ้องศาลว่า กฎหมายยาเสพติดขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เปิดช่องให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นได้เข้าถึงและปลูกกัญชาใช้รักษาตนเอง
ศาลชั้นต้นตัดสินให้ผู้ฟ้องชนะ แต่ศาลอุทธรณ์ส่งเรื่องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นตัดสินยืนยันคำตัดสินเดิม ที่ว่า “กฎหมายยาเสพติดขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลบังคับใช้”
ปี พ.ศ.2559 (เมื่อ 9 ปีมาแล้ว): คำพิพากษาของศาลสูงประเทศแคนาดา ศาลสูง ตัดสินให้ผู้ป่วยที่ฟ้องชนะคดี และระบุว่า กฎระเบียบของรัฐบาล ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ที่ว่าด้วย “สิทธิและเสรีภาพ” เพราะการจำกัดช่องทางการเข้าถึงกัญชา และเป็นการบีบบังคับโดยอ้อมให้ผู้ป่วยต้องไปหาจากแหล่งใต้ดินผิดกฎหมาย และขัดต่อสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย “ประชาชนต้องได้รับการคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย ดังนั้น “กฏระเบียบของรัฐบาลจึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลบังคับใช้”
นอกจากนี้ยังกำหนดให้รัฐบาลแคนาดาต้องแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญภายใน 6 เดือน เพื่อให้ประชาชนสามารถปลูก ครอบครอง และใช้กัญชาได้
ปี พ.ศ.2561 (เมื่อ 6 ปีมาแล้ว): แคนาดาออกกฎหมายกัญชาเสรี
นายจัสติน ทรูโด หัวหน้าพรรคเสรีนิยม ชูนโยบายสนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการอย่างถูกกฎหมาย ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2558 เมื่อเป็นรัฐบาลได้ออกกฎหมายกัญชา (Cannabis Act 2018) และออกกฎหมายลำดับรอง อีก 2 ฉบับ คือ กฎระเบียบเรื่องกัญชา และกฎระเบียบเรื่องกัญชง
ปัจจุบันคนแคนาดามีสิทธิ์ปลูกและใช้กัญชามากขึ้น สถิติ ณ ต้นปี พ.ศ. 2566 มีคนแคนาดาใช้กัญชา รวม 7.7 ล้านคน (ร้อยละ 21 ของประชากร), มีร้านจำหน่ายกัญชาถูกกฎหมาย จำนวน 3,332 ร้าน, การใช้กัญชาแบบใต้ดิน ลดลงจาก ร้อยละ 51 เหลือร้อยละ 35, อุตสาหกรรมกัญชามีมูลค่ารวม 2.9 แสนล้านบาท และมีมูลค่าการส่งออกรวม 5.8 พันล้านบาท [8][9][10]
คำพิพากษาของศาลเกี่ยวกับกัญชาในประเทศอื่นๆ
ศาลรัฐธรรมนูญของประเทศอาฟริกาใต้ ได้มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561 ตัดสินให้การปลูกกัญชาโดยผู้ใหญ่ในสถานที่ส่วนตัว ไม่ใช่ความผิดทางอาญา และบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่สามารถใช้หรือครอบครองกัญชาเพื่อการบริโภคเป็นการส่วนตัว [11]
ศาลฎีกาของประเทศเม็กซิโก ศาลฎีกาลงมติ 8 ต่อ 3 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ตัดสินให้การใช้กัญชาในผู้ใหญ่ เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย [12]
ข้อคิดปิดท้าย
มีความพยายามที่จะสกัดกั้นการเข้าถึงกัญชาของประชาชนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 80 ปี และยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยการใช้ข้อมูลที่ลำเอียง การต่อสู้ของผู้ป่วยและประชาชนโดยการพึ่งอำนาจของศาลสถิตยุติธรรมเป็นทางออกอย่างหนึ่งที่จะสามารถดำรงความเป็นธรรมทางสังคมได้
อ้างอิง:
[1]ผู้จัดการออนไลน์. “หมอปัตพงษ์” ปลุกประชาชนไทยทุกคนปกป้องสิทธิปลูกกัญชาไว้รักษาโรค. เผยแพร่: 30 เม.ย. 2566.
https://mgronline.com/qol/detail/9660000039766
[2] ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์.“ข้อเสนอต่อรัฐสภา เพื่อทำให้กัญชามีประโยชน์สูงสุดต่อคนไทย”. เอกสารวิชาการนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการแก้ปัญหา กัญชา กัญชง กระท่อมฯ สภาผู้แทนราษฎร์. เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563.
https://www.facebook.com/100271791433257/posts/204445791015856/?d=n
[3] ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์. รวมบทความกัญชาทางการแพทย์. 29 ธันวาคม 2566.
http://tinyurl.com/3uemv6w9
[4]https://en.wikipedia.org/wiki/Legal_history_of_cannabis_in_Canada
[5]https://laws-lois.justice.gc.ca/eng/regulations/sor-2013-119/index.html
[6]https://www.canada.ca/en/health-canada/services/publications/drugs-health-products/understanding-new-access-to-cannabis-for-medical-purposes-regulations.html
[7]https://www.nortonrosefulbright.com/en/knowledge/publications/271808e6/federal-court-finds-that-the-marihuana-for-medical-purposes-regulations-are-unconstitutional
[8]https://www150.statcan.gc.ca/n1/pub/11-631-x/11-631-x2023006-eng.pdf
[9]https://mjbizdaily.com/canada-medical-cannabis-exports-jump-to-ca220-million-domestic-sales-decline/
[10]https://en.wikipedia.org/wiki/Cannabis_in_Canada
[11]https://www.ccsa.ca/sites/default/files/2024-04/Clearing-the-Smoke-on-Cannabis-Medical-Use-of-Cannabis-and-Cannabinoids-2024-Update-en.pdf
[12]https://en.wikipedia.org/wiki/Cannabis_in_South_Africa
[13]https://en.wikipedia.org/wiki/Cannabis_in_Mexico