xs
xsm
sm
md
lg

"ชลน่าน" เผยอุบัติเหตุดับ "สงกรานต์" ลดลง 2% เตือนขากลับระวังหลับใน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.เผย 5 วันสงกรานต์ เจ็บตายอุบัติเหตุถนนลดลง พบนอน รพ.ลดลง 8.29% ดับลดลง 2.74% พบขับเร็ว ดื่มแล้วขับ ตัดหน้ากระชั้นชิดปัจจัยเสี่ยงหลัก 66% ไม่คาดเบลท์/ไม่สวมหมวก ทำเจ็บรุนแรง เตือขากลับระวังหลับใน

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถิติอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ 2567 ว่า ตั้งแต่วันที่ 11 - 15 เม.ย. 2567 เกิดอุบัติเหตุสะสม 1,564 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บสะสม 14,621 ราย ลดลงจากปีก่อน 1.37% จำนวนนี้ต้องเข้ารับการรักษาใน รพ. 1,593 ราย ลดลง 8.29% ส่วนผู้เสียชีวิตสะสม 206 ราย ลดลงจากปีก่อน 2.74% จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กทม.และเชียงราย จังหวัดละ 13 ราย ร้อยเอ็ด 12 ราย และนครราชสีมา 10 ราย สาเหตุยังคงเป็นขับรถเร็ว 43.19% ดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ 23.92% และตัดหน้ากระชั้นชิด 15.28% เกิดเหตุบนถนนสายรองในอบต.หรือในหมู่บ้านถึง 31.88% ด่านชุมชนจึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยคัดกรองผู้มีอาการมึนเมาสุรา ช่วง 5 วันนี้ สามารถสกัดกั้นคนเมาไม่ให้ออกมาขับขี่บนท้องถนนได้ถึง 9,144 ราย นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ขับขี่ 66.29% ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย/ไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้น


“ที่น่าเป็นห่วงคือ พบเยาวชนอายุน้อยกว่า 20 ปี ที่ดื่มแล้วขับถึง 324 ราย โดยมีอายุน้อยที่สุดเพียง 10 ปี สธ.มุ่งบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งตรวจตราร้านค้า สถานที่และเวลาห้ามจำหน่าย และห้ามจำหน่ายให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ตรวจวัดผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุทุกราย หากอายุต่ำกว่า 20 ปี จะสืบเอาผิดไปถึงร้านค้าที่จำหน่ายให้ด้วย“ นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ช่วงวันที่ 16 - 17 เม.ย.นี้ ประชาชนเริ่มเดินทางกลับมาทำงานตามปกติ การจราจรจึงมีความหนาแน่นมากขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้อ่อนเพลียระหว่างขับรถได้ง่าย และมีโอกาสเกิดอาการหลับในสูง ก่อนเดินทางจึงควรตรวจเช็กสภาพรถและเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้ยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วง ระหว่างขับรถหากรู้สึกอ่อนล้าหรือง่วง ขอให้จอดพักผ่อนที่จุดบริการประชาชนแล้วค่อยไปต่อ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด สวมหมวกนิรภัย/คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล และหากพบผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1669 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง


กำลังโหลดความคิดเห็น