อย.เผยไทยไม่มีขออนุญาตนำเข้าผลิตภัณฑ์ลดคอเลสเตอรอลจาก "ข้าวยีสต์แดง" จากญี่ปุ่น หลังพบทำคนดับ 2 ราย ป่วยนับร้อย ย้ำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีข้าวยีสต์แดง ต้องมีสารโมนาโคลินไม่เกิน 3 มก./วัน สารปนเปื้อนซิทรินินมไเกิน 10.7 มคก./วัน
จากกรณีญี่ปุ่นเรียกคืนผลิตภัณฑ์ “ข้าวยีสต์แดง” หลังพบผู้เสียชีวิต 1 ราย และเข้าโรงพยาบาลอีก 26 ราย ซึ่งต่อมาพบผู้เสียชีวิตอีกราย และเข้าโรงพยาบาลเพิ่มเป็น 106 รายนั้น
ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่น ได้เรียกคืนสินค้าที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดไตวาย โดยระบุว่าได้รับรายงานช่วงเดือนมกราคม 2567 มีผู้ป่วยหลังรับประทานผลิตภัณฑ์ Beni-koji choleste-help ที่มีส่วนประกอบของข้าวยีสต์แดง (red yeast rice) ผลิตโดย บริษัท โคบายาชิ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ประเทศญี่ปุ่น จึงได้เรียกคืนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด และได้ทำการตรวจสอบและวิเคราะห์หาสารซิทรินินที่อาจปนเปื้อนจากกระบวนการหมักข้าวยีสต์แดง เนื่องจากสารนี้เป็นพิษต่อไตแต่ผลวิเคราะห์ไม่พบสารดังกล่าว
อย.ได้ตรวจสอบข้อมูลการขออนุญาตแล้ว ไม่พบการขออนุญาตนำเข้า และเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์ในข่าวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีข้าวยีสต์แดง เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ได้รับอนุญาตจาก อย. จะต้องมีสารโมนาโคลิน ไม่เกิน 3 มิลลิกรัมต่อวัน และปริมาณสารปนเปื้อนซิทรินิน ไม่เกิน 10.7 ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งปริมาณที่อนุญาตเป็นปริมาณที่ปลอดภัยต่อการบริโภค อีกทั้ง ฉลากจะต้องแสดงข้อความคำเตือน ดังนี้
“ห้ามใช้เกินขนาดที่กำหนด” “ห้ามใช้ในหญิงให้นมบุตร” “ห้ามใช้ ร่วมกับยาลดระดับไขมันในเลือด, ยากดภูมิคุ้มกัน , ยารักษาอาการซึมเศร้า, และยาต้านไวรัสเอดส์” “ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคตับ หรือโรคไต” “ห้ามรับประทานติดต่อกันนานเกิน 4 เดือน (16 สัปดาห์)” “ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน” และ“หยุดรับประทานทันทีหากมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือมี อาการคล้ายเป็นไข้หวัด”
"ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดเหตุในญี่ปุ่นเป็นผลิตภัณฑ์ลดคอเรสเตอรอล ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจใช้สารสำคัญโมนาโคลินในปริมาณสูงกว่าที่กำหนดในประเทศไทย เนื่องจากญี่ปุ่นไม่จำกัดปริมาณการใช้ และ อย. ไม่ได้อนุญาตให้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย" รองเลขาธิการ อย.กล่าว