เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมกรุงเทพกรีฑา ได้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ แทน พล.ต.ต.พรภัทร สุยะนันทน์ ที่ครบวาระในเดือนมีนาคมนี้ โดยสมาคมกรุงเทพกรีฑา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง 5 คน มี นายกำธร วังอุดม เป็นประธาน กกต. และมีผู้สมัคร 2 คน ได้แก่ นางชลธิชา สันติเสวี ได้เบอร์ 1 และ นายพิพัฒน์ กัญจนาภรณ์ เบอร์ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกสมาคมกรุงเทพกรีฑา ปรากฏว่า นางชลธิชา สันติเสวี ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 175 คะแนน ขณะที่ นายพิพัฒน์ กัญจนาภรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้คะแนน 296 คะแนน มีผู้งดออกเสียง 4 คนและบัตรเสีย 4 ใบ ทำให้ นายพิพัฒน์ กัญจนาภรณ์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมกรุงเทพกรีฑาคนใหม่ วาระในการทำงานคือ ปี 2567-2569
สำหรับประวัติของนายพิพัฒน์นั้น จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการโรงงานฟอกย้อมซินไฉฮั้วอุตสาหกรรม ปัจจุบันเป็นประธานกลุ่มบริษัท ซินไฉฮั้ว เป็นกรรมการอำนวยการสมาคมกรุงเทพกรีฑา และที่ปรึกษาสมาคมกรุงเทพกรีฑา 6 สมัยติดต่อกัน โดย นายพิพัฒน์ ได้ประกาศวิสัยทัศน์ สะอาด สร้างสรรค์ มืออาชีพ มีนโยบายในการสร้างสรรค์พัฒนาสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา ให้เป็นสนามกอล์ฟชั้นแนวหน้าของประเทศไทย มีระบบการบริหารจัดการสนามอย่างโปร่งใส และซื่อสัตย์สุจริต เป็นไปอย่างมืออาชีพ พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลในทุกๆ ด้านให้สมาชิกเข้าถึงตรวจสอบได้ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายในการพัฒนาที่ดินของสมาคมให้เกิดมูลค่าเพิ่มเพื่อนำมาเป็นกองทุนในการบริหารจัดการยกระดับสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา
ทั้งนี้ สมาคมกรุงเทพกรีฑา ก่อตั้งก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2512 มีสมาชิกทั้งหมด 1,212 คน ส่วนใหญ่เป็นตระกูลธุรกิจชั้นนำของประเทศ อาทิ โสภณพนิช, ล่ำซำ, พรประภา, โชควัฒนา, จึงรุ่งเรืองกิจ, มหากิจศิริ, จิราธิวัฒน์, หวั่งหลี, บุรุษพัฒน์, ตั้งคารวคุณ ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมกรุงเทพกรีฑา เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา ซึ่งก่อสร้างเมื่อปี 2510 และเปิดทดลองในปี 2512 โดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 ทรงปลูกต้นสักเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับสนามกอล์ฟ บริเวณแฟร์เวย์หลุม 15 จากนั้นมีการพัฒนาสนามกอล์ฟในสมัย พล.ต.อ.เภา สารสิน เป็นนายกฯ เมื่อปี 2537 ว่าจ้างนายเจมส์ โรเบิร์ต วอห์น สถาปนิกชาวอเมริกัน ออกแบบและควบคุมปรับปรุงสนามกอล์ฟ จนกลายเป็นสนามกอล์ฟที่มีแฟร์เวย์สวยงามแวดล้อมด้วยต้นไม้หลากชนิด มีสระน้ำ ลำธารรายล้อม ถือเป็นความท้าทายของนักกอล์ฟ
ปัจจุบัน สนามกอล์ฟกรุงเทพฯ ซึ่งมีพื้นที่เกือบ 700 ไร่ กลายเป็นสนามกอล์ฟแห่งเดียวที่สมาชิก 1,212 คน ร่วมเป็นเจ้าของและมีทำเลที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพมหานคร
