"ชลน่าน" ชี้ 9 ปัจจัยส่งผลระบบสาธารณสุขไทย ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ประชากร พฤติกรรม โรคอุบัติใหม่ สิ่งแวดล้อม เกษตร ขนส่ง และเทคโนโลยี ย้ำต้องปรับระบบรองรับอนาคต ใช้พื้นที่เป็นฐาน ประชาชนเป็นศูนยืกลาง บริการแบบ Digital Health
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างบรรยายพิเศษให้กับนักศึกษาหลักสูตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นพิเศษ 1 และหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นำทางการแพทย์ รุ่นที่ 1 ประเด็น “อนาคตระบบสาธารณสุขไทย” เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบสุขภาพไทยในอนาคต โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการกำหนดระบบสาธารณสุขของไทย 9 ปัจจัย ได้แก่
1.เศรษฐกิจ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ
2.การเมือง ซึ่งจะมีผลต่อการกำหนดนโยบายประเทศ
3.ประชากร ที่มีปัญหาเด็กเกิดน้อย ด้อยคุณภาพ และการเข้าสู่สังคมสูงวัย ทำให้มีความเสี่ยงที่จะขาดแคลนแรงงานในอนาคต
4.ลักษณะพฤติกรรมของคนไทยและพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ ที่เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการป่วยด้วยโรคเรื้อรังและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
5.โรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ โรคระบาด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนซึ่งแต่ละแห่งมีบริบททางสุขภาพและการเกิดโรคระบาดที่แตกต่างกัน
6.สิ่งแวดล้อม
7.อาหารและเกษตรกรรม ความมั่นคงปลอดภัยทางอาหาร การเข้าถึงโภชนาการ และการใช้สารเคมีทางการเกษตร
8.การขนส่ง โดยเฉพาะเขตเมือง ที่มีปัญหาจราจรหนาแน่น เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุและมลพิษทางอากาศ
9.เทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพระบบบริการทางการแพทย์ให้ตอบสนองกับปัญหาและความต้องการของประชาชน
“อนาคตด้านสุขภาพของคนไทย ต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบการแพทย์และสาธารณสุข โดยใช้พื้นที่เป็นฐานและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมกับพลิกโฉมการบริการเป็น Digital Health มีการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของหน่วยบริการต่างๆ เข้าด้วยกัน สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ให้เป็นหลักประกันสุขภาพของประชาชนทุกคนทุกสิทธิ์การรักษา และเกิดความมั่นคงทางสุขภาพในระยะยาว” นพ.ชลน่านกล่าว
นพ.ชลน่านกล่าวว่า การวางนโยบายการดำเนินงานของ สธ. จึงมุ่งเน้นที่จะตอบสนองประเด็นปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและอนาคตของประเทศ อาทิ การลดลงของเด็กเกิดใหม่ สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกระทบต่อโครงสร้างประชากรไทย ก็มีการผลักดันนโยบายส่งเสริมการมีบุตรให้เป็นวาระแห่งชาติ แก้ไขกฎหมายต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้มีบุตรยากให้เข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เป็นต้น รวมทั้งประเด็นปัญหาสำคัญอื่นๆ ทั้งด้านสุขภาพจิตและยาเสพติด เศรษฐกิจสุขภาพ (Healthy City Model) มะเร็งครบวงจร สถานชีวาภิบาล ทีมเชื่อมประสานใจ Care D+ โดยมีเป้าหมายให้พร้อมในการรับมือต่อความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคต เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนและสร้างความมั่นคงทางสุขภาพในระยะยาว