“หมอธีระวัฒน์” เผยอีกรายงานวัคซีนโควิดส่งผลต่อระบบประสาทสมอง-ไขสันหลังอักเสบ ต้องประเมินประสิทธิภาพด่วน

“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานวารสารการแพทย์ในยุโรป ระบุวัคซีนโควิดส่งผลข้างเคียงก่ออันตรายในทุกระบบของร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทในสมอง ทำให้หน้าเบี้ยว ถึงขั้นหูดับตาบอด เส้นประสาทอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ เส้นเลือดตันในสมอง จำเป็นเร่งด่วนต้องประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนโควิดที่ใช้กันมาตลอดและยังคงใช้อยู่

วันนี้(21 ธ.ค.) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลข้างเคียงทางระบบประสาทจากวัคซีนโควิด ว่า จากรายงานในวารสาร European journal of medical research 25 กุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งเป็นการรวบรวมรายงานใน ช่วงตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2022 ที่เกิดขึ้นกับสมอง ไขสันหลัง เส้นประสาทสมอง และเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงลำตัวแขนขา พบว่า

ในสมองเกิดขึ้นได้ในรูปลักษณะของเส้นเลือดตัน เป็นได้ทั้งเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำ เส้นเลือดแตกในสมอง มีสมองอักเสบ สับสน จนกระทั่งถึงชักและกลายเป็นโรคลมชัก การเคลื่อนไหวผิดปกติ

ในระบบไขสันหลัง ออกมาในรูปของอักเสบ อัมพาต ลำตัวแขนขา มีอาการไขสันหลังอักเสบ ร่วมกับตาบอด จนกระทั่งมี MS ซึ่งเป็นสมองอักเสบ เรื้อรัง

ในเส้นประสาทสมอง มีหน้าเบี้ยว เส้นประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกตาผิดปกติ ทำให้ตาเห็นภาพซ้อน ตาเหล่ เสียงดังในหู จนกระทั่งหูดับ ตาบอด และการรับกลิ่นผิดปกติ

ในเส้นประสาทส่วนปลาย เกิดการประทุของงูสวัดทำให้เส้นประสาทอักเสบ มีเส้นประสาทอักเสบทั่วตัว อ่อนแรง หรือออกมาในรูปของชาเจ็บปวด รวมทั้ง เกิดแผงประสาทที่ไหปลาร้าอักเสบเกิดมีปวดอย่างรุนแรงที่หัวไหล่และต้นแขนและตามด้วยอ่อนแรงและกล้ามเนื้อลีบ

วัคซีนทุกประเภทเกิดผลแทรกซ้อนทางระบบประสาทเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อตาย หรือ adenovirus based vaccine อย่าง แอสตร้า Johnsonและ Johnson Sputnik และ modified mRNA ทั้ง pfizer Moderna

เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผลแทรกซ้อนนั้นเกิดขึ้นได้ทุกระบบซึ่งในรายงานนี้จะเจาะจงเฉพาะระบบประสาทเท่านั้น

เป็นความจำเป็นอย่างรีบด่วนและมีความสำคัญสูงสุดที่ต้องประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนโควิดที่ใช้กันมาตลอดและยังคงให้ใช้อยู่ และที่สำคัญก็คือผลข้างเคียงและผลแทรกซ้อนที่ก่อให้เกิดอันตรายในทุกระบบของร่างกาย

ข้อมูลของวัคซีนต้องมี “ความโปร่งใส” ให้ประชาชนรับทราบ

การตัดสินใจที่จะใช้วัคซีนต้องควบรวมกับโรค ว่าแท้จริงแล้วมีอันตรายเพียงใด และความเสี่ยงที่เกิดจากวัคซีนเอง