อย.ยัน ยาน้ำแก้ไอเด็กในไทย ไม่พบการใส่สารพิษปลอมปน หลังใน “อิเหนา” พบจงใจใส่สารพิษสูงถึง 99% และไม่พบยี่ห้อที่ปลอมปนจำหน่ายในไทย
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีข่าวพบการปลอมปนสารพิษไดเอทิลีนไกลคอลและเอทิลีนไกลคอล ในยาน้ำแก้ไอสำหรับเด็กในอินโดนีเซีย เมื่อปี 2565 เป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิตจำนวนมาก ว่า พบปริมาณการปลอมปนสารพิษสูงถึง 99% เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย เป็นการจงใจปลอมปนสารพิษดังกล่าวในสารโพรไพลีนไกลคอลที่ใช้ในการผลิตยาน้ำให้แก่ผู้ผลิตยาในประเทศอินโดนีเซีย และ อินเดีย
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย อย.ได้เร่งตรวจสอบยืนยันไม่พบปัญหาการปลอมปนสารพิษดังกล่าวในผลิตภัณฑ์ยาที่ผลิตและนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ และไม่พบผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัท Afi Farma ซึ่งเป็นผู้ผลิตในประเทศอินโดนีเซียที่ปรากฏในข่าวว่า พบการปลอมปนสารพิษสูงถึง 99%
นอกจากนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา อย. ได้เก็บตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาน้ำสำหรับเด็กที่มีการนำเข้าจากอินโดนีเซียและอินเดีย โดยผลการตรวจวิเคราะห์ไม่พบมีการปลอมปนไดเอทิลีนไกลคอล และเอทิลีนไกลคอล มาใช้ทดแทนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยาแต่อย่างใด และเพื่อเป็นการเฝ้าระวังและสร้างความมั่นใจในการบริโภคยาที่มีการจำหน่ายในประเทศ อย. จะดำเนินการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาน้ำสำหรับเด็กอย่างต่อเนื่อง โดยกำกับดูแลให้ผู้ผลิตยาต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตและกระจายยา (GMDP) อย่างเข้มงวด รวมถึงการตรวจประเมินสถานที่นำเข้ายาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการกระจายยา (GDP) และระบบการตรวจสอบเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันการปลอมปนสารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค