“ชลน่าน” เผย 2 คนไทยเจ็บถูกยิงที่ขา จะส่งรักษาที่ รพ.ราชวิถี ส่วนที่เหลือแบ่ง 3 แนวทางดูแล จัดที่พักอาคารศูนย์กักกัก ดูแลคนยังไม่พร้อมกลับบ้าน และกลุ่มที่ต้องเยียวยาให้คำปรึกษาด้านจิตใจ หากไม่มีปัญหาต้องการกลับมี พม.ดูแล เบื้องต้นสภาพจิตใจยังถือว่าดี ส่วนคนกลับชุดถัดไป ดูแลคัดกรองจบที่สนามบิน
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่อาคารศูนย์กักกัน สถาบันบำราศนราดูร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รวมถึงสำนักงานประกันสังคม ให้การต้อนรับคนไทยชุดแรก 15 คน ที่เดินทางกลับจากอิสราเอล และส่งตัวมาตรวจสุขภาพกายและจิตใจที่สถาบันบำราศนราดูร
นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ว่า ตรงนี้เป็นจุดในการตรวจสภาพร่างกาย จิตใจ ความเครียด และประเมินสิทธิต่างๆ ของกระทรวงแรงงาน และ พม. ผู้เดินทาง 15 คน มีจำนวน 2 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ เราตรวจประเมินเบื้องต้น อาจจะต้องส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ราชวิถี เนื่องจากบาดเจ็บที่เข่าและขาจากอาวุธปืน ส่วนอีก 2 คนที่บาดเจ็บแต่ยังไม่ต้องถึงขั้นส่งรักษาต่อ ส่วนการประเมินจิตใจ ความเครียด และผลกระทบจะแบ่งแยกประเภทออกมา หากจำเป็นต้องรักษาเยียวยาด้านจิตใจก็จะดำเนินการ ภาพรวมเราแบ่งการดูแล 3 แนวทาง คือ 1. แรงงานที่ประสงค์จะพักที่นี่ก่อนแม้ไม่มีอาการอะไร ก็จัดที่พักที่นี่พร้อมกับญาติ 2. กลุ่มที่มีอาการจะเข้ากระบวนการเยียวยา ให้คำปรึกษาแนะนำ ก็จะให้พักที่นี่เช่นกัน และ 3. ส่งกลับบ้านเมื่อมีความพร้อมอยากจะกลับบ้าน โดยจะส่งกลับโดย พม.เป็นผู้ดูแล
“สธ.ดูแลมิติสุขภาพ แรงงานได้นำคณะมามอบเงินเยียวยาเบื้องต้นรายละ 1.5 หมื่นบาททุกราย และมีถุงยังชีพมอบให้จาก สธ.และแรงงาน พม.จะดูแลเรื่องการกลับบ้าน ส่วนผลการตรวจคัดกรองจิตใจยังต้องรอก่อน เพราะต้องรอกระบวนการตรวจก่อน เรามีทีมประเมินด้วยทีม MCATT หากมีความเครียดระดับไหนอย่างไรจะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาให้คำปรึกษาแนะนำ” นพ.ชลน่าน กล่าว
ถามถึงความพร้อมการดูแลคนที่จะกลับมาเพิ่มเติม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ชุดที่จะกลับชุดที่ 2 และ 3 จะมีมาตรการแตกต่างจาก 15 คนนี้ เพราะมีคนบาดเจ็บทางกายเห็นชัด จึงพามาตรวจที่นี่ทั้งหมดก่อน ส่วนชุดถัดๆ มา จะมีด่านกักกันตรวจค้นดูแลที่สนามบิน เพื่อคัดกรองและแยกประเภทได้เลย ใครสามารถกลับบ้านได้ให้กลับบ้าน หากมีความจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการเยียวยารักษาก็จะแบ่งการดูแล เบื้องต้นกลุ่มที่จะมาถึงวันจันทร์ที่ 16 ต.ค. เวลา 04.40 น. ประมาณ 120-140 คน ที่สนามบินดอนเมือง ส่วนใหญ่เป็นคนทั่วไป ไม่มีรายงานภาวะการบาดเจ็บ ส่วนวันที่ 18 ต.ค. เดินทางกลับด้วยสายการบิน Israel Airline เที่ยวบิน LY083 จำนวน 80 คน ถึงไทยวันที่ 19 ต.ค. เวลาประมาณ 11.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
“เบื้องต้นแผนการดูแล คือ คัดกรองสุขภาพกาย โดย สสจ.สมุทรปราการ รพ.สมุทรปราการ และ รพ.บางพลี ที่สนามบินสุวรรณภูมิ, กรมแพทย์ทหารอากาศ และ รพ.ภูมิพล ณ บน.6 ดอนเมือง และ สสจ.ระยอง และ รพ.ระยอง สนามบินอู่ตะเภา ส่วนคัดกรองสุขภาพจิต โดยกรมสุขภาพจิตและศูนย์สุขภาพจิตที่ 6 จังหวัดชลบุรี และคัดกรองโรคติดต่อ โดยกรมควบคุมโรคและกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค ทั้งนี้ หลังกลับถึงภูมิลำเนาจะติดตามดูแลสุขภาพกาย/สุขภาพจิตต่อเนื่อง โดย สสจ.และ รพ.ในภูมิลำเนา” นพ.ชลน่าน กล่าว
ถามว่า ผู้ที่บาดเจ็บ 2 รายที่ต้องพัก รพ.มีการประเมินแล้วเป็นอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ต้องให้แพทย์เข้าไปดูรายละเอียด จำเป็นต้องเปิดแผลเข้าไปดูหรือไม่อย่างไร เป็นไปตามกระบวนการการดูแลรักษาของแพทย์ในการประเมิน ถามต่อว่ามีอาการอ่อนล้าจากการบาดเจ็บหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เท่าที่พูดคุย น้องๆ ก็มีสภาพจิตใจที่ดูเข้มแข็ง ส่วนใหญ่มาจากหนองบัวลำภู จากพะเยา เชียงราย เท่าที่พูดคุยถือว่าเป็นนักสู้ แต่ต้องประเมินโดยละเอียดอีกครั้งด้านจิตใจ โดยเฉพาะความเครียด
ถามถึงกรณีครอบครัวของคนที่สูญหายหรือถูกจับตัวประกันในต่างจังหวัด เพราะติดต่อไม่ได้ ได้ดูแลจิตใจแล้วหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้ามีความชัดเจนรู้ที่อยู่ชัดเจน ทีมเราพร้อมเข้าถึงทุกพื้นที่ ซึ่งภายใต้ข้อวิตกกังวลหรือผลกระทบที่เกิดขึ้น ในมุมสาธารณสุขเราเข้าไปก่อนเพื่อประเมินสภาพจิตใจ บาดแผลที่จะเกิดขึ้นก่อน ไม่ได้รอให้ญาติเขาเป็นอย่างไรก่อน นี่คือกระบวนการทำงานของเรา
