xs
xsm
sm
md
lg

“ชลน่าน” หนุนเภสัชฯ พัฒนาระบบยา เน้นคิวออนไลน์ ใช้หุ่นยนต์จัดยา ดันสมุนไพรสร้าง ศก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชลน่าน” หนุนเภสัชกรพัฒนาระบบยาประเทศไทย รุกงานเภสัชทางไกล ใช้ระบบคิวออนไลน์ หุ่นยนต์จัดยา ลดแออัด รพ. ส่งเสริมคนไทย นักท่องเที่ยวเข้าถึงยาที่มีคุณภาพ ผลักดันยาและสมุนไพรบางรายการสร้างเศรษฐกิจประเทศ

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวเปิดประชุม “ทิศทางการพัฒนาระบบยาและเภสัชกรรมประเทศไทย ยุคดิจิทัล” และบรรยายพิเศษ “มุมมองและความคาดหวังของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต่อวิชาชีพเภสัชกร” ว่า สธ.ได้ขับเคลื่อน “30 บาทพลัส เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน” ด้วยการยกระดับสาธารณสุขไทย ต่อยอดเศรษฐกิจไทย เติมเต็มบริการสุขภาพเพื่อประชาชน ให้มีสุขภาวะที่ดีทุกมิติ โดยใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการ การเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการ อาทิ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่  รพ.อัจฉริยะ ระบบการแพทย์ทางไกล ส่งต่อแบบไร้รอยต่อ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มความครอบคลุมการดูแลสุขภาพปฐมภูมิที่บ้านและชุมชน โดยพัฒนาระบบนัดหมาย รับยาในหน่วยบริการใกล้บ้าน ส่วนผู้ป่วยบางกลุ่มโรค เช่น มะเร็ง สุขภาพจิตและยาเสพติด ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยระยะท้าย ได้เข้าถึงบริการสุขภาพครอบคลุมทุกพื้นที่


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับวิชาชีพเภสัชกรนับว่ามีความสำคัญในการกำหนดนโยบายด้านยา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาที่จำเป็น สมเหตุผล รวดเร็ว ใกล้บ้าน ผ่านกระบวนการค้นหา แก้ไขปัญหา เพิ่มการเข้าถึงยา และเพิ่มคุณภาพการรักษาด้วยยาให้กับผู้ป่วย พัฒนาระบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ ให้มีการรับยาใกล้บ้าน บริการเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy) ลดระยะเวลารอคอยใน รพ.ด้วยระบบคิวออนไลน์ หรือหุ่นยนต์จัดยาในหน่วยบริการผู้ป่วยนอก/ผู้ป่วยใน บนพื้นฐานการบริหารจัดการฐานข้อมูลระบบยา สร้างระบบส่งต่อผู้ป่วยและยาแบบไร้รอยต่อ สร้างความรอบรู้ด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองด้านยาอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าถึงยาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน พัฒนางานวิจัยและยาหรือสมุนไพรบางรายการเพื่อทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการสร้างเศรษฐกิจประเทศ

“เภสัชกรเป็นบุคลากรหลักที่จะสนับสนุนให้ระบบยาพัฒนาไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยสามารถพึ่งตนเองด้านยาได้โดยเฉพาะการพัฒนาสมุนไพรมาเป็นยาเพื่อทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบัน และที่สำคัญจะช่วยดูแลความปลอดภัยด้านยาของประชาชนด้วย” นพ.ชลน่าน กล่าว


ด้าน รศ.พิเศษ ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อยกระดับและรักษามาตรฐานการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สร้างระบบหรือกลไกในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมพัฒนาตนเองให้ทันต่อความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยี ให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคหรือผู้รับบริการอีกทางหนึ่ง โดยการประชุมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 ต.ค. 2566 มีการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ เช่น “ทิศทางของเภสัชกรในยุคดิจิทัล” “Telepharmacy” “ความเชื่อมโยงระหว่าง AI Big data และงานบริการผู้ป่วย ภาครัฐการ” และประชุมกลุ่มย่อย ในประเด็น “วิชาชีพเภสัชกร จะสนับสนุนนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาลอย่างไร?”


กำลังโหลดความคิดเห็น