xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เปิดศูนย์ฉุกเฉินฯ ติดตามเหตุสู้รบ "อิสราเอล" เตรียมทีมประเมินสุขภาพคนไทยกลับบ้าน ดูแลจิตใจญาติเหยื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.เปิดศูนย์ฉุกเฉินติดตามสถานการณ์สู้รบ "อิสราเอล" วาง 3 ภารกิจดูแลคนไทย เตรียมทีมสนับสนุนหน่วยแพทย์ทหารที่เป็นทีมหลัก เซ็ตทีมดูแลคนไทยกลับบ้าน คัดรองสุขภาพกาย จิตใจและโรคระบาด พร้อมเตีรยมประสานข้อมูลส่งทีม MCATT เยียวยาจิตใจญาติผู้เสียชีวิตและได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือคนไทยจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า ภาวะการสู้รบที่อิสราเอล สธ.ถือเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญ ตัวแทนของ สธ.ได้ร่วมประชุมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงกรอบแนวนโยบายของการดำเนินการเรื่องนี้ในภารกิจที่ได้รับมอบ ซึ่งภารกิจด้านการแพทย์ได้มอบหมายให้แพทย์ทหารเป็นหลัก และมอบให้ สธ.เป็นหน่วยที่มีความพร้อมที่ต้องเสริมกำลังได้ตลอดเวลา จากที่เรารับนโยบายก็จะมาเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (อีโอซี) สำหรับสถานการณ์นี้ โดยมอบหมาย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ ผู้ตรวจราชการ สธ. รักษาราชการแทนรองปลัด สธ. เป็นประธาน ซึ่งจะมีการติดตามสถานการณ์ทุกวัน ในศูนย์มีกรอบภารกิจ 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.ประสานการดูแลระหว่างประเทศ หากมีความจำเป็นต้องส่งหน่วยแพทย์ของเราเข้าไปสนับสนุนก็พร้อม 2.การเตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายหรือดูแลคนไทยที่จะต้องรับกลับในมิติสุขภาพและการดูแล และ 3.การดูแลเยียวยาด้านจิตใจ โดยทีม MCATT เราเตรียมพร้อมที่จะดูแลกลุ่มญาติหรือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง


ถามว่าทีมที่สำรองเพื่อสนับสนุนวางบุคลากรไว้อย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตนดูในเชิงนโยบาย แต่ทีมเราเตรียมพร้อมทั้งหมด เพราะประสบการณ์เตรียมการเช่นนี้เรามีมาตลอดอยู่แล้ว ผู้ปฏิบัติก็เตรียมพร้อม จำนวนและทีมบุคคลก็เป็นไปตามความเหมาะสม ถามย้ำว่าเป็นทีมเดียวกับที่เราสนับสนุนกรณีเกิดภัยพิบัติใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ทีมบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินในภาวะสงคราม ใกล้เคียงแต่ไม่เหมือน เป็นภารกิจระหว่างประเทศที่แตกต่าง ไม่ได้เป็นลักษณะภายใน ความจำเพาะเรื่องการดูแลประสานงานระหว่างทีมระหว่างประเทศก็จำเป็นและสำคัญ ภายใต้นโยบายหลักที่รองนายกฯ มอบหมาย เราถือตรงนั้นเป็นกลไกหลักก่อน การประสานงานเชื่อมโยงระหว่างทีมไทยแลนด์จะต้องมีความชัดเจนเราก็เตรียมพร้อมเรื่องนี้

ถามว่ามีจัดการดูแลทางไกลสำหรับคนไทยในพื้นที่หรือมีระบบใดในการดูแลหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า มอบให้หน่วยแพทย์ทหารเป็นหน่วยงานหลัก เราเป็นหน่วยสนับสนุน แต่เราเตรียมความพร้อมตลอด สมมติว่าหน่วยปฏิบัติการแกนกลางมีความจำเป็นว่าเราจะต้องดำเนินการเรื่องนี้เราก็พร้อมทันที


ถามถึงความพร้อมดูแลด้านจิตใจ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ส่วนการดูแลด้านจิตใจ ทีม MCATT มีกลไกวิธีการที่ชัดเจนในการประเมินสภาพจิตใจผู้ได้รับผลกระทบลักษณะบุคคลที่จะเข้าไปค้นหา คนรับผลกระทบจะมาประเมินสภาพจิตใจ สภาพร่างกาย ประเมินออกมา วิธีการประเมินมีความชัดเจน สามารถระบุได้ว่าสภาพจิตเป็นอย่างไร มีความเครียดระดับไหน แยกประเภทออกมาแล้วเข้าสู่กระบวนการปรึกษาแนะนำ ถ้าจำเป็นต้องรักษาก็รักษา ตอนนี้ยังไม่ได้ลงไป แต่เมื่อประสานมาเราก็พร้อม เพราะเรามีทีมกระจายในพื้นที่อยู่แล้ว เช่น ญาติ ต้องรับุมาว่า ผู้เสียชีวิต 12 ราย ผู้บาดเจ็บทั้งหมดญาติเขาอยู่ตรงไหนอย่างไรเราจะเชื่อมโยง

ด้าน นพ.สุรโชคกล่าวว่า สำหรับการรับคนไทยกลับประเทศนั้น ภาพใหญ่จะเป็นการกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม ซึ่งในช่วงบ่าย สธ.จะมีการประชุมร่วมกับทั้ง 2 กระทรวง เราพร้อมให้การดูแลเมื่อได้รับการประสานมา รวมถึงการสนับสนุนเวชภัณฑ์ต่างๆ หากมีการร้องขอมา โดยเรามีการตั้งทีมที่สามารถ Alert ได้ทันที โดยจะมีกรมควบคุมโรคทำหน้าที่ในการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อโรคระบาดต่างๆ กรมสุขภาพจิตตรวจประเมินคัดกรองด้านจิตใจ กรมการแพทย์ดูแลเรื่องการเจ็บป่วยด้านร่างกาย

ขณะที่ นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัด สธ. รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการดูแลสภาพจิตใจของญาติของผู้ประสบเหตุในอิสราเอลว่า ขณะนี้ได้ประสานขอข้อมูลจากกระทรวงแรงงานและกระทรวงต่างประเทศ เพื่อนำรายชื่อแรงงานทั้งหมด ติดตามหาญาติเพื่อพูดคุยและดูแลสภาพจิตใจ หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาส เบื้องต้นได้รับรายงานว่า แรงงานส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อีสาน จึงทางเตรียมให้ทางศูนย์สุขภาพจิตในพื้นที่ ส่งทีม MCATT ตามประกบครอบครัวและญาติ แบ่งเป็น ญาติแรงงาน และเหยื่อในเหตุการณ์ และหากภายหลังสามารถนำแรงงานไทยกลับมาไทย ก็จะส่งทีมสุขภาพจิตตามประกบอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น