"ปานปรีย์" นำทีม สธ.-สปสช. ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ กล่าวถ้อยแถลงเรียกร้องให้โลกลงทุนระบบหลักประกันสุขภาพฯ มากขึ้น เพื่อป้องกัน เตรียมพร้อม และตอบสนองต่อโรคระบาด
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. เวลา 10.00 น. (เวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องการป้องกัน การเตรียมความพร้อม และการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ (PPPR) ในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 โดยมี นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เข้าร่วมประชุม
นายปานปรีย์ ร่วมกล่าวถ้อยแถลงเรียกร้องให้โลกลงทุนมากขึ้นเพื่อส่งเสริมหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เร่งเจรจาจัดทำตราสารระหว่างประเทศในประเด็นดังกล่าวภายใต้องค์การอนามัยโลก และพัฒนาความร่วมมือด้านการป้องกัน เตรียมพร้อม และตอบสนองโรคระบาดอย่างสร้างสรรค์และมีสำนึกต่อส่วนรวม ว่า ประเทศไทยมีความเห็นสอดคล้องกับแถลงการณ์ของอาเซียนที่เวียดนามส่งมา และเน้นย้ำว่าโรคโควิด 19 ไม่เพียงแต่เป็นวิกฤตด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นความท้าทายหลายมิติที่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจและสังคม แม้ว่าจะไม่ใช่ภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลกอีกต่อไป แต่ยังคงมีความสำคัญสูงสุดสำหรับประเทศไทย ในการป้องกัน การเตรียมความพร้อม และการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ (PPPR )ประเทศไทยได้กำหนดลำดับความสำคัญที่สำคัญหลายประการ
1.หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไทยสนับสนุนให้เพิ่มการลงทุนในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งในช่วงเวลาปกติและภาวะฉุกเฉิน หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นเครื่องรับประกันว่าระบบสุขภาพจะให้ความคุ้มครองทางสังคม ส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม และรักษาความเสมอภาคด้านสุขภาพ 2.การเสริมสร้างการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ประเทศเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศกำลังพัฒนาโดยการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของระบบการดูแลสุขภาพ 3.สนธิสัญญาโรคระบาดและกฎอนามัยระหว่างประเทศ ประเทศไทยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรับรองข้อตกลงที่เข้าถึงได้และเป็นข้อสรุปสำหรับการป้องกันการระบาดใหญ่ผ่านการสร้างสนธิสัญญาการระบาดใหญ่และการแก้ไขกฎอนามัยระหว่างประเทศภายใต้องค์การอนามัยโลก (WHO)
4.ความมั่นคงและการพัฒนาด้านสุขภาพโลก ประเทศไทยตระหนักดีว่าการพัฒนาเป็นส่วนสำคัญต่อความมั่นคงด้านสุขภาพโลก และเรียกร้องให้มีกระบวนทัศน์ใหม่ของความร่วมมือหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดหาเงินทุนด้านสุขภาพด้านนวัตกรรมทั้งในระดับในประเทศและต่างประเทศ และ 5.การเข้าถึงเทคโนโลยี ประเทศไทยกล่าวถึงการมีส่วนร่วมในการเข้าถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับโรคโควิด-19 โดยได้รับใบอนุญาตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ฉบับแรกจากบริษัทยาเอกชน ความพยายามนี้เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและเป็นหุ้นส่วนที่เป็นแบบอย่าง
"ประเทศที่เจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริงนั้นสร้างขึ้นจากประชากรที่มีสุขภาพดี ประเทศไทยเรียกร้องให้มีความพยายามร่วมกันในการปรับปรุงการเตรียมพร้อมของโลกสำหรับการระบาดใหญ่ในอนาคต และเน้นย้ำถึงความสำคัญของความมุ่งมั่นที่เข้มแข็ง ความสามัคคี ความร่วมมือ และความร่วมมือเพื่อประโยชน์ส่วนรวม" นายปานปรีย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้รับรองปฏิญญาทางการเมืองว่าด้วยเรื่องการป้องกัน การเตรียมความพร้อม และการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ (Pandemic Prevention, Preparedness and Response: PPPR) ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการยกระดับความร่วมมือในการเสริมสร้างความมั่นคงทางสุขภาพ