xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ทดสอบระบบ "โดรนการแพทย์" ครั้งแรก ส่งยาข้ามทะเลตรัง ปั้นโมเดลกลางช่วยห่างไกล-ประสบภัยเข้าถึงรักษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.ทดสอบระบบ "โดรนทางการแพทย์" ครั้งแรกของไทย ขนสางยา-เวชถัณฑ์ข้ามทะเลจาก รพ.สตูล ไป รพ.สต.ปูยู ระยะทาง 12 กม. ช่วยพื้นที่ห่างไกล ประสบภัยเข้าถึงการรักษา จ่อยกเป็นโมเดลกลางพื้นที่อื่นทั่วประเทศต่อไป

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่สนามกีฬารัชกิจประการ ท่าเรือตำมะลัง จ.สตูล นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวการทดสอบการบินอากาศยานไร้คนขับสนับสนุนภารกิจทางการแพทย์ ว่า สธ.มีนโยบายพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัล นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับระบบบริการสุขภาพ เพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่พื้นที่ห่างไกลให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ สะดวก ทั่วถึงและเท่าเทียม ซึ่งการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับสนับสนุนภารกิจทางการแพทย์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับ ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย การขนส่งทางอากาศ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และเสนอแนะต่อคณะกรรมการการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัล ซึ่งกำหนดให้ จ.สตูลเป็นพื้นที่ Sandbox ทดสอบรูปแบบและวิธีการใช้อากาศยานไร้คนขับ


สำหรับการทดสอบระบบการบินอากาศยานไร้คนขับในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ใช้โดรนบินข้ามทะเล ขนส่งยาและเวชภัณฑ์ โดยขาไปนำวัคซีนบาดทะยัก จาก รพ.สตูล ไปยัง รพ.สต.ปูยู และขากลับนำเลือดมาส่งที่ รพ.สตูล รวมระยะทาง 12 กิโลเมตร โดยทีม Skyports จากสิงคโปร์ และคณะทำงานพัฒนาต้นแบบการใช้อากาศยานไร้คนขับสนับสนุนภารกิจทางการแพทย์ นำโดย นาวาอากาศเอก อนุกูล อ่อนจันทร์อม นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 65 (วปอ.65) ร่วมปฏิบัติการทดสอบ

นพ.โสภณกล่าวว่า โดรนที่ใช้ปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นสุดยอดนวัตกรรมอากาศยานจาก Skyports Swoop Aero รุ่น Swoop Kookaburra Mark 3 ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 17 กิโลกรัม สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม ความเร็วสูงสุดที่ 68 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะเวลาการบินต่อเนื่อง 68 นาที และฝ่าฝนไม่เกิน 10 มิลลิเมตร/ชั่วโมง ในส่วนการขนส่งทางการแพทย์ด้วยโดรนเป็นไปตามมาตรฐานสากล ผ่านการอนุญาตของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และสำนักงาน กสทช. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บินทดสอบและสาธิตอย่างเต็มระบบ โดยเฉพาะระบบการควบคุมการบินด้วยการสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งจะสามารถปฏิบัติการบินได้ทุกพื้นที่ในประเทศ อีกทั้งที่ผ่านมาคณะทำงานฯ ได้มีการทดสอบการบิน Qulity Test ขนส่งเลือดร่วมกับ Vertical Team ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สร้างความมั่นใจให้กับคณะเจ้าหน้าที่ทำงาน ที่จะทำการบินทดสอบในพื้นที่จริง


“หากการทดสอบในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะช่วยให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงยากลำบาก เมื่อเจ็บป่วยสามารถเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หรือเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติต่าง ก็สามารถใช้โดรนสนับสนุนภารกิจทางการแพทย์ ขนส่งยา วัคซีน เลือด เซรุ่ม ที่จำเป็นได้ ใช้เป็นโมเดลกลางปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อื่นทั่วประเทศต่อไป” นพ.โสภณกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น