อภ.เผยยาช่วยเลิกบุหรี่ในไทยมี 5 ตัว บรรจุบัญชียาหลักฯ แค่ 2 ตัว เผยผลวิจัยยาใหม่ "ไซทิซิน" ปลอดภัย ได้ผลดีช่วยเลิกบุหรี่ จ่อขึ้นทะเบียน อย. เปิดไลน์การผลิตเต็มสูบ ม.ค. 67 ช่วยลดค่ารักษาต่อคอร์ส 3-4 เท่า ประหยัดนำเข้ายา 12 ล้านบ.ต่อปี
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2564 พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ถึง 9.9 ล้านคน และเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ด้วยโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร ถุงลมโป่งพอง และโรคหัวใจ เป็นต้น สำหรับในประเทศไทย มียา 5 รายการ ที่ใช้สำหรับเลิกบุหรี่ ได้แก่ ยาเม็ด Varenicline, ยาเม็ด Bupropion , นิโคตินทดแทน (Nicotine replacement therapy), ยาเม็ด nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว โดยปัจจุบันมีเพียงยา 2 รายการ ที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้แก่ ยาเม็ด nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยผู้ที่ติดบุหรี่ให้เข้าถึงยาเลิกสูบบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพ และช่วยลดการเกิดโรค อภ. ได้วิจัยและพัฒนายาเลิกสูบบุหรี่ชนิดใหม่ คือ ยาเม็ดไซทิซิน จีพีโอ (1.5 มิลลิกรัม) เป็นรายแรกในไทย โดยร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ศึกษาวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ ผลการวิจัยมีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลดี ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุมัติทะเบียนจาก อย.ประเภทยาควบคุมพิเศษ ที่จำหน่ายได้ในสถานพยาบาลเท่านั้น
พญ.มิ่งขวัญกล่าวว่า หากเปลี่ยนมาใช้ยาเม็ดไซทิซิน จีพีโอ มาในการรักษาแทนการรักษาในปัจจุบันที่ใช้ยาเม็ด Varenicline จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่ายาต่อคอร์สและลดระยะเวลาในการรักษาได้ 3-4 เท่า รวมทั้งลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ประมาณ 12 ล้านบาทต่อปี โดย อภ.จะเริ่มผลิตจำหน่ายยาใน ม.ค.2567 ทั้งนี้ การมียาเลิกบุหรี่คุณภาพดีและราคาถูก ผลิตได้เองโดย อภ.จึงนับเป็นก้าวย่างสำคัญของการเลิกบุหรี่ในประเทศไทยที่จะช่วยให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นต่อไป