โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ นำเทคโนโลยีใหม่ วิเคราะห์ผลการทำ MRI แบบยืน แพทย์ชี้แม่นยำและสามารถนำไปวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและระบบประสาทได้ตรงจุดมากขึ้น
ถ้าหากมองหาโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลังและระบบประสาทที่มีความพร้อมทั้งบุคลากรและอุปกรณ์การรักษาที่ครบวงจร คงต้องมีชื่อโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาทแห่งแรกในประเทศไทย เพราะที่นี่ถือเป็นรายแรกของโรงพยาบาลในประเทศไทยที่ครบครันทั้งแพทย์เฉพาะทางและอุปกรณ์การรักษาโรคกระดูกสันหลังที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลกก็ถูกรวมไว้ที่นี่ ดังนั้นการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ ในปัจจุบัน โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เองก็ไม่พลาดที่จะเป็นโรงพยาบาลรายแรกในประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยีนี้มาเป็นผู้ช่วยแพทย์ในการวิเคราะห์ผลการตรวจ MRI แบบยืน
นพ.ธนวัฒน์ อุณหโชค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เผยว่า ปัจจุบันที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ถือเป็นโรงพยาบาล ที่นำเครื่อง MRI แบบยืนมาใวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกาย ซึ่งแพทย์สามารถมองเห็นภาพได้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงของผู้ป่วยได้มากขึ้น อีกทั้งผู้ป่วยที่มีภาวะกลัวที่แคบก็สามารถตรวจได้ เนื่องจากผู้ผลิตได้พัฒนาสนามแม่เหล็กในแนวดิ่งและออกแบบให้สนามแม่เหล็กมีขนาดเล็กลง ทำให้สามารถหมุนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เพื่อสร้างภาพได้ทั้งขณะนอนและยืนโดยที่รูปร่างของเครื่องจะมีลักษณะเปิดโล่งด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งต่างจากเครื่อง MRI แบบอุโมงค์ จึงช่วยให้ผู้ป่วยที่รู้สึกกลัวที่แคบสามารถเข้ารับการตรวจได้แบบไร้กังวล
นพ.ธนวัฒน์ ยังเผยอีกว่า สำหรับข้อดีของ MRI แบบยืนนั้นด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งจะเปิดโล่งสามารถปรับความชันของเตียงให้อยู่ในรูปแบบท่านั่ง ยืน นอน ท่ากึ่งนั่งกึ่งยืน ท่าก้มหรือแอ่นหลังได้ เพื่อทำให้เห็นการเคลื่อนของกระดูกได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ใช้ระยะเวลาในการตรวจสั้น แพทย์สามารถมองเห็นการกดทับหรือความเสื่อมของหมอนรองกระดูกได้ชัดเจนมากขึ้น และยังสามารถสแกนกระดูกสันหลังให้เป็นภาพแบบ 3D ทำให้วัดระยะต่างๆ ที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกระดูกสันหลังได้อย่างละเอียดมากกว่าแบบเดิม
อีกทั้งการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาช่วยแพทย์ในการวิเคราะห์ภาพที่เกิดขึ้นจากการทำ MRI เปรียบเทียบทั้งท่ายืนและท่านอน ซึ่งตัวระบบจะมีซอฟต์แวร์ชนิดพิเศษช่วยคำนวณ และถือเป็นรายแรกในประเทศไทย อย่างไรก็ตามการมองจากซอฟต์แวร์ยังสามารถเปรียบเทียบค่าความผิดปกติได้ทั้งในแบบท่ายืนและท่านอน อีกทั้งยังสามารถคำนวณค่าออกมาเป็นตัวเลข (Parameter) ทำให้มีความแม่นยำมากกว่าคน ซึ่งจะช่วยแพทย์ในแง่ของความแม่นยำ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล และข้อมูลที่เกิดขึ้นยังเป็นประโยชน์ในการช่วยแพทย์ตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น และยังเป็นองค์ประกอบในการซักถามผู้ป่วยได้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงในอนาคตด้วยชุดข้อมูลเทคโนโลยีใหม่นี้ สามารถทำเป็นชุดข้อมูลขนาดใหญ่ (Big DATA) รวมถึงกระบวนการวิเคราะห์ (Analysis) และพัฒนาต่อยอดเป็น Machine Learning หรือ AI ในอนาคตได้
สำหรับโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งเดียวและแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีจุดแข็งที่เด่นชัด คือการมีทีมแพทย์ และพยาบาลเฉพาะทางโรคปวดที่เกิดจากกระดูกสันหลังและระบบประสาท ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน ทำให้รู้ลึก รู้จริง สามารถรักษาได้ตรงจุด วินิจฉัยได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ประกอบกับการนำเอานวัตกรรมสมัยใหม่จากทั่วโลกเข้ามาช่วยในการรักษา โดยใช้ระบบเลเซอร์และการส่องกล้องนำวิถีในการผ่าตัดเป็นหลัก และยังมีห้องผ่าตัดที่มีอุปกรณ์ทันสมัยระดับโลก ทำให้รักษาถูกต้องตรงจุด เกิดข้อผิดพลาดน้อยมาก อีกทั้งทีมแพทย์ยังได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานจากหลากหลายประเทศ เรียกได้ว่าเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลังและระบบประสาทที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย
โรงพยาบาลเอสสไปน์แอนด์เนิร์ฟ ปรึกษา โทร 02 034 0808