กรมอนามัย เผยเด็กเนือยนิ่ง 15% สูงกว่าเป้าหมาย มีกิจกรรมทางกายเพียง 16% แนะพ่อแม่จำกัดการดูทีวี เล่นมือถือ เพิ่มโอกาสออกไปเล่น ขยับร่างกาย
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ปี 2565 พบว่า เด็กวัยเรียนวัยรุ่นมีพฤติกรรมเนือยนิ่งร้อยละ 15.16 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย และมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ ร้อยละ 16.1 ทั้งนี้ ช่วงปิดเทอม เด็กส่วนใหญ่ใช้เวลาในการเล่นโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือดูโทรทัศน์ ทำให้ขาดการเคลื่อนไหวร่างกายและมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ รวมถึงการบริโภคขนมขบเคี้ยว น้ำหวานหรือน้ำอัดลม ซึ่งจะส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นและเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้ โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำให้เด็กอายุ 5-17 ปี มีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงหนัก เฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 60 นาทีทุกวัน จำกัดเวลาที่ใช้ไปกับพฤติกรรมเนือยนิ่ง โดยเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ควรมีพฤติกรรมเนือยนิ่งไม่เกิน 13 ชั่วโมงต่อวัน เด็กอายุ 6-13 ปี ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 9-11 ชั่วโมง และเด็กอายุ 14-17 ปี ควรนอนหลับวันละ 8-10 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้เด็กมีกิจกรรมทางกายมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการมีสุขภาพที่ดี ดังนี้ 1.จำกัดการดูโทรทัศน์ การใช้คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือให้น้อยกว่า 2 ชั่วโมง/วัน และ 2. เพิ่มโอกาสให้มีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงหนัก จนรู้สึกเหนื่อย อย่างน้อยวันละ 60 นาทีทุกวัน (สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป) เช่น เต้นแอโรบิก วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก เล่นกีฬา ซิทอัพ ดันพื้น และยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
"การออกกำลังกายช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงสามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เซลล์สมองแข็งแรงมากขึ้น ทำให้เรียนรู้และความจำดีขึ้น มีสมาธิ มีความกระตือรือร้นเรียนรู้สิ่งต่างๆ จิตใจแจ่มใส ผ่อนคลายความเครียด เสริมสร้างความแข็งแรงของมวลกระดูกมีผลต่อความสูง ควบคู่นอนหลับเพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้เด็กวัยเรียนวัยรุ่นมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สูง สมส่วน” นพ.มณเฑียร กล่าว