สคล.ห่วงปี 66 "สงกรานต์รีเทิร์น" จัดยิ่งใหญ่หลายพื้นที่ หลังอั้นมานาน 3 ปีจากโควิด ดึงดูดวัยรุ่นเที่ยวช่วงเย็น-กลางคืน เพิ่มเสี่ยงเมา อุบัติเหตุ หวั่นสุญญากาศการเมืองก่อนเลือกตั้ง ปล่อยผีเกียร์ว่างตรวจตราไม่เข้มข้น จี้ธุรกิจรับผิดชอบเป่าแอลกอฮอล์ก่อนออกจากร้าน ขอ ตร.ตั้งด่านตั้งแต่ถนนหน้าร้าน ลดคนเมาออกท้องถนน
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า สถานการณ์จัดงานสงกรานต์ปี 2566 คาดว่าจะกลับมาจัดเยอะขึ้น เป็นการปล่อยผี เนื่องจากอั้นมาจากช่วงการระบาด 3 ปีของโรคโควิด 19 และต่างโปรโมทว่าจะกลับมาจัดแบบยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยเฉพาะคอนเสิร์ต ลานเบียร์ จะดึงดูดเด็กๆ ให้ออกมาใช้ชีวิตบนถนนมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเย็นและกลางคืนที่จะออกจากบ้านไปหาพื้นที่เล่นน้ำหรือไปสถานที่ให้ความบันเทิง เนื่องจากช่วงกลางวันอากาศร้อนอบอ้าว จึงเป็นเวลาที่สวนทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครต่างๆ ที่ล้ามาทั้งวันและกำลังกลับไปพักผ่อน ทำให้คาดว่าแนวโน้มอุบัติเหตุทางถนนน่าจะกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง และความรุนแรงจากพฤติกรรมการเล่นน้ำน่าจะมากขึ้น เหตุทะเลาะวิวาทความรุนแรงมีแนวโน้มกลับมาเยอะ นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมาด่านต่างๆ ที่คอยตรวจตราก็รู้สึกยังไม่ได้ผลมากนัก ปี 2565 มีคนถูกสกัดตรวจเลือดผ่านด่านประมาณ 19 คนต่อวันต่อจังหวัด ก็เป็นห่วงว่าช่วงนี้เป็นช่วงสุญญากาศทางการเมือง เนื่องจากมีการยุบสภา และเตรียมการเลือกตั้ง การดำเนินการต่างๆ อาจจะไม่เข้มงวด ปล่อยผี ปล่อยปละละเลย หรือเกียร์ว่าง
นายวิษณุกล่าวว่า การดำเนินการลดหรือป้องกันอุบัติเหตุทางถนน เบื้องต้นอยากให้ทางธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากเฉพาะช่วงเทศกาลก็ได้กำไรเป็นพันล้านบาทแล้ว อยากให้มีการลงทุนในเครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ เพียงซื้อเครื่องเป่าซึ่งราคาก็ไม่ได้แพงไปกว่าชุดตรวจ ATK แค่เปลี่ยนหลอดหรือทิวบ์เท่านั้น ช่วยตรวจคนเมาที่จะออกจากร้านกลับบ้านว่าระดับเกินหรือไม่ หากเกินก็อาจให้รอก่อนจนระดับแอลกอฮอล์ลดลงแล้วค่อยให้กลับ เพราะเข้าใจว่ามาตรการมีรถไปส่งดำเนินการยาก ตัวเมืองยังพอเป็นไปได้ แต่ในต่างจังหวัด ชนบทที่ข้ามอำเภอกันมาก็เป็นเรื่อยากที่ไม่สามารถทำได้ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยับด่านจากถนนไกลๆ มาบริเวณที่เป็นหัว-ท้ายถนนของจุดที่เล่นคอนเสิร์ตหรือบริเวณที่มีร้านดื่มจำนวนมาก เพื่อดูแลตั้งแต่ต้นทางก่อนปล่อยคนออกไปสู่ถนนก็น่าจะช่วยได้ เหมือนอย่างกรณีรังสีซีเซียม 137 ที่ยังต้องกระชับพื้นที่ไปตรวจรอบโรงงาน เป็นต้น
นอกจากนี้ เสนอว่ายังต้องช่วยกันเข้มงานงานสงกรานต์แบบปลอดเหล้าปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่าพื้นที่ที่เคยจัดอยู่แล้วก็จะจัดต่อไป และอยากชวนให้ภาคธุรกิจที่จะจัดงานขึ้นใหม่ คำนึงถึงการจัดแบบปลอดภัยไม่มีแอลกอฮอล์ก็สามารถสนุกสนานได้ และควรเน้นกิจกรรมอย่างอื่นด้วย มิเช่นนั้น วัยรุ่นปัจจุบันจะคิดแค่ว่าสงกรานต์มีแต่คอนเสิร์ตเท่านั้น จริงๆ แล้วสามารถเอาวัฒนธรรมประเพณีหรือวิถีดั้งเดิมมาประยุกต์ในการจัดงานให้ร่วมสมัยขึ้นได้ ก็สามารถดึงดูดให้คนมากิจกรรมมากขึ้น หากไม่ดำเนินการก็จะทำให้สงกรานต์ที่กำลังรีเทิร์นในปีนี้ คุณค่า 4 สิ่งจะหายไป คือ 1.คุณค่าหายไปเป็นความเสื่อม 2.ความสุขกลายเป็นความทุกข์ 3.ความสนุกกลายเป็นความเศร้า และ 4.ความปลอดภัยกลายเป็นความรุนแรง จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน