อธิบดีกรมอนามัยแจงหน่วยงานในพื้นที่และจิตเวชเข้าดูแล "พยาบาล" และครอบครัวแล้ว หลังโพสต์ขอจบชีวิต ขอทุกคนอย่าเพิ่งตัดสินเหตุการณ์ ใครถูกใครผิด เน้นดูแลให้สภาพจิตใจดีขึ้น บางส่วนเป็นเรื่องของคดี เผยนายกฯ และรมว.สธ.สั่งกำชับดูแลให้ดีและเป็นธรรม
จากกรณีพยาบาล ของศูนย์อนามัยที่ 1 จ.เชียงใหม่ เขียนจดหมายโพสต์เฟซบุ๊กสั่งเสียลาตาย โดยระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่สามารถช่วยเหลือได้ทัน
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ต้องขอเป็นกำลังใจ ส่วนการดูแลพยาบาลท่านนี้ ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานจิตเวชในพื้นที่ได้ร่วมกันเข้าไปดูแลพยาบาล และครอบครัวแล้ว ขณะนี้สบายดี มีคนคอยดูแล สิ่งที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลา จะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่านเพื่อให้สภาพจิตใจดีขึ้น อยากขอให้สื่อมวลชนช่วยกันสื่อสารเรื่องนี้อย่างเข้าใจ เพราะเมื่อเราใช้ชีวิตในสังคม ไม่ว่าจะในบ้าน สังคม เราย่อมต้องเผชิญความเครียด จึงต้องมีกลไกในการรับมือ ทุกครั้งจะมีทางออก เราต้องส่งเสริมทางออกอย่างสร้างสรรค์
"ช่วงนี้อย่าเพิ่งไปตัดสินหรือบอกว่า เหตุการณ์เป็นแบบไหนอย่างไร ใครถูกใครผิด ขอให้รอกระบวนการผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสอบถามก่อน เพื่อนำประเด็นที่เกิดขึ้นมาป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก สิ่งที่เป็นห่วงคือ พฤติกรรมการเลียนแบบ ขอให้สังคมอย่าไปเบลมตัวผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
ถามว่าปกติหน่วยบริการหรือศูนย์อนามัยจะมีจุดรับเรื่องร้องทุกข์ให้บุคลากรหรือไม่ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า มีกลไกอยู่ทุกหน่วย ที่กรมอนามัยก็มี เป็นนโยบายของรัฐบาล กระทรวง และกรม โดยจะมีจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียนต่างๆ รวมไปถึงเมื่อมีเรื่องราวเกิดขึ้นจะมีระบบราชการในการแก้ไขจัดการ แต่เรื่องนี้มีเรื่องคดีเข้ามา ดังนั้น ต้องให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการให้ครบถ้วน แต่รูปคดีอาจไม่ได้ซีเรียสมาก มีปัจจัยอื่นๆ ด้วย
ถามว่าต้องมีการกำชับไม่ให้มีการบูลลี่หรือคุกคามใดๆ หรือไม่ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า เรายังไม่ทราบว่า เรื่องนี้สรุปเป็นอย่างไร แต่หากพูดถึงปัญหาการบูลลี่ เป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขมีการรณรงค์ตลอดว่า การบูลลี่ไม่ใช่ทุกคนจะรับได้ ดังนั้น ไม่ควรมีการทำลักษณะนี้ หลายคนอาจมองเป็นเรื่องปกติ แต่จริงๆไม่ใช่ ดังนั้น แต่ละคนแต่ละบริบทแตกต่างกันไป ขณะนี้ได้กำชับหน่วยงานในสังกัดให้ช่วยกันอยู่อย่างเข้าใจ แต่ขออย่าไปพูดว่าใครถูกใครผิด เพราะยังไม่ได้สรุป เราควรสื่อสารแบบเข้าใจดีกว่า ที่สำคัญนายกรัฐมนตรี รองนายกฯ และ รมว.สธ.รับทราบเรื่องนี้ โดยมีความห่วงใย พร้อมทั้งกำชับให้ดูแลพยาบาลให้ดีที่สุด และให้ดูแลปัญหาอื่นๆที่ตามมา ที่สำคัญต้องดูแลอย่างเป็นธรรม