สธ.แจงข้อมูลงานวิจัยอ้างฉีดวัคซีน mRNA หลายครั้งเพิ่มเสี่ยงติด “โควิด” ขาดความน่าเชื่อถือ ยังไม่ถูกยอมรับให้เผยแพร่ และนำมาใช้กับไทยไม่ได้ เหตุสถานการณ์ มาตรการต่างกัน ย้ำฉีดอย่างน้อย 4 เข็ม ห่าง 4 เดือน เพิ่มความปลอดภัย ไม่ป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวรายงานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ระบุเรื่องการรับวัคซีน mRNA หลายครั้ง เพิ่มความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 ซ้ำ ว่า จากการตรวจสอบพบว่า เป็นข้อมูลงานวิจัยของแผนกโรคติดเชื้อ คลีฟแลนด์คลินิก สหรัฐอเมริกา ซึ่งยังไม่ได้รับการประเมินรับรองจากผู้เชี่ยวชาญก่อนการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ และยังไม่ได้รับการยอมรับให้เผยแพร่ตามมาตรฐานวิชาการ ประเด็นที่พบเป็นเพียงการนำเสนอจากข้อมูลที่มีอยู่ ขาดการวิเคราะห์และสรุปข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลด้านระบาดวิทยาที่สำคัญ พฤติกรรมเสี่ยง พฤติกรรมการป้องกันโรค และประวัติการติดเชื้อร่วมกับการฉีดวัคซีน เนื่องจากการฉีดวัคซีนโควิด 19 เพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อหรือการติดเชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ ต้องร่วมกับพฤติกรรมป้องกันโรค เช่น สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะหรือมีผู้คนแออัด ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ดังนั้น ผลวิจัยดังกล่าวจึงขาดความน่าเชื่อถืออย่างมาก
“ที่สำคัญ ข้อมูลงานวิจัยดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้กับไทยได้ เนื่องจากมีความแตกต่างกันในด้านสถานการณ์ มาตรการป้องกันควบคุมโรค ด้านระบาดวิทยา และพฤติกรรมสุขภาพของประชากร โดยสหรัฐอเมริกาไม่ได้เน้นมาตรการ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย เหมือนไทย ระบบการรักษาพยาบาล การควบคุมโรค และสายพันธุ์ของเชื้อที่ระบาดมีความแตกต่างกัน อีกทั้งผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นมากกว่า 3 เข็มในสหรัฐฯ เป็นกลุ่มผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงสูง จึงมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น” นพ.รุ่งเรืองกล่าว