xs
xsm
sm
md
lg

สธ.แจงเตียงโควิดยังพอ หลังหลาย จว.เปิดวอร์ดเพิ่ม ย้ำเจอศพไม่ต้องตรวจเชื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมควบคุมโรค ยันเตียงโควิดอาการหนักยังเพียงพอ อัตราใช้อยู่ที่ 8.5% ส่วนหลายจังหวัดเปิดวอร์ดเพิ่ม เพาะผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือรับส่งต่อ ย้ำเจอศพไม่ต้องตรวจโควิด ผู้จัดการศพสวมหน้ากากอนามย ถุงมือก็เพียงพอ เผยสัดส่วนเสียชีวิตกว่าครึ่งมาจากโรคอื่นแต่พบโควิดร่วม ไม่ได้ตายจากโควิดโดยตรง

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 หลังจากมีรายงานหลายจังหวัดต้องเปิดวอร์ดโควิดเพิ่ม ว่า ช่วงที่โรคโควิด 19 ระบาด ทุก รพ.จะใช้ศักยภาพเตียงที่มีมาดูแลโควิดหมด พอสถานการณ์ดีขึ้นก็ปรับกลับไปดูแลผู้ป่วยโรคอื่นๆ แต่ตอนนี้หลายรพ.คิดว่าต้องเตรียมความพร้อม เพราะเริ่มมีผู้ป่วยเพิ่ม จึงปรับระบบเตียงกลับมาเตรียมดูแลโควิดอีก แต่ภาพรวมการครองเตียงยังไม่ได้เป็นปัญหา ซึ่งตัวเลขรายงานเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยปอดอักเสบ 649 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 385 ราย ถือว่าเพิ่มจากสัปดาห์ก่อนไม่มากนัก อัตราการครองเตียงในกลุ่มผู้ป่วยระดับ 2-3 หรือเตียงเหลืองแดง อยู่ในระดับที่จัดการได้ คือ ประมาณ 8.5% ของเตียงทั้งหมด แต่มีบางจังหวัดรับส่งต่อผู้ป่วยอาจจะขึ้นไปถึง 20-30% ซึ่งก็ยังไหว เพราะระบบเราสามารถเฉลี่ยข้ามเขตสุขภาพได้

“เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผู้ป่วยยังต่ำๆ เราใช้เตียงแค่ 5% ตอนนี้ขึ้นมา 8.5% ก็ยังไหว ส่วนที่เคยระบาดรุนแรงจริงๆ ขึ้นไป 20-30% ประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะตอนนี้เราฉีดวัคซีนแล้ว ส่วนใหญ่เมื่อติดเชื้อจึงไม่ป่วยหนัก”นพ.โสภณ กล่าว

เมื่อถามว่าปัจจุบันเมื่อพบเจอศพ แล้วตรวจ ATK พบติดโควิด ทำให้หลายคนยังตกใจ นพ.โสภณ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องมองก่อนว่าโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ เปรียบเทียบหลังรอบนี้แล้วโควิดก็เหมือนไข้หวัดใหญ่ที่อาจจะมีการป่วยและเสียชีวิตได้ มีการติดเชื้อได้ ซึ่งเชื้อที่จะเจอบ่อยจากนี้ก็จะเป็น 2 เชื้อนี้ ดังนั้นหากดูแลตัวเองดี กังวลว่าจะรับเชื้อ เวลาจัดการกับศพต่างๆ ก็สวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องไปตรวจ ATK อีก แล้วนำศพไปจัดการในรูปแบบที่ปลอดภัย เนื่องจากว่าศพไม่แพร่เชื้อ เพราะว่าศพไม่ไอ ไม่จาม เพียงแต่คนเรามีโอกาสเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อเสมอ โควิดก็เหมือนกัน ดังนั้นการตรวจโควิดอาจจะไม่ได้ประโยชน์นักในช่วงหลังจากนี้

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ส่วนสัดส่วนการเสียชีวิตนั้น ต้องดูลักษณะของการเกิดโรคก่อน หากเป็นการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 จะต้องมีภาวะปอดอักเสบก่อน ทำให้ปอดทำงานไม่ได้ ระบบทางเดินหายใจทำงานล้มเหลว กรณีนี้เชื่อได้ว่าโควิด 19 ทำให้เสียชีวิต แต่กรณีที่ป่วยเป็นโรคอื่นๆ อาจจะมีติดเชื้อในกระแสเลือด หรือเป็นโรคหัวใจ แต่ในช่วงนั้นอาจจะมีเชื้อโควิดเยอะ จึงอาจจะเป็นคนที่เสียชีวิตร่วมโควิด 19 แต่ไม่ได้เกิดจากโควิดโดยตรง ซึ่งกรณีหลังนี้พบกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิต


กำลังโหลดความคิดเห็น