xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" ลั่น สธ.-ตระกูล ส อย่าแยกกัน ต้องร่วมสร้างเป็นธรรมระบบสุขภาพ ให้คะแนนบุคลากรเต็ม 100 รมต.แค่ 60

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อนุทิน" ย้ำ สธ.-ตระกูล ส อย่าแยกกัน ถือเป็น ส สาธารณสุขเหมือนกัน ต้องร่วมคิดลดการป่วยในคนไทย ลุยสร้างความเป็นธรรม ขยายสิทธิประโยชน์ลดเหลื่อมล้ำ วางเป้ามีเครื่องฉายรังสีทุกจังหวัด ชมบุคลากรสุขภาพ ให้คะแนนเต็มร้อย หลังต่างชาติชื่นชมระบบ ส่วนตัว รมต.ให้แต่ 60

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ คอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 15 และปาฐกถา “ความเป็นธรรมด้านสุขภาพ โอกาสและความหวังอนาคตประเทศไทย” ตอนหนึ่ง ว่า ความเป็นธรรมด้านสุขภาพถูกพูดถึงบ่อย ต่อจากความเท่าเทียมหรือการลดความเหลื่อมล้ำ แต่มีความลึกซึ้งกว่า เพราะต้องทำให้ 2 สิ่งนี้เกิดขึ้นก่อน ซึ่งความเข้าใจเรื่องความเป็นธรรมคือ ทุกคนควรจะได้รับสิทธิที่ตัวเองมีสิทธิจะได้รับ โดยไม่บกพร่อง

"ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ พูดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพ ครอบคลุมไปถึงมาตรฐานการครองชีพ ความอยู่ดี อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและการดูแลรักษาทางการแพทย์และบริการสังคมที่จำเป็น และมีสิทธิในหลักประกันยามว่างงาน ดังนั้น ไม่ใช่แค่มีบริการรักษาและมีค่ายาฟรีจากรัฐเท่านั้น แต่ต้องทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่เจ็บป่วย และดำรงชีวิตต่อไปด้วยคุณภาพมาตรฐานชีวิตที่ดี ไม่เป็นภาระลูกหลาน" นายอนุทินกล่าว


นายอนุทินกล่าวว่า หลายประเทศที่ตนไปร่วมประชุมต่างชื่นชมเราเรื่องการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุม แต่ก็มีสิ่งที่เราต้องวางแผนล่วงหน้า คือ โลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ในช่วง 30 ปีทุกประเทศอายุขัยของคนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% แต่สุขภาพและคุณภาพชีวิตไม่ได้โตตาม ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 10% ถือว่าน่ากลัว แสดงว่าชราจำนวนมากขึ้น แต่ยังต้องคอยดูแลว่ามีสุขภาพที่ดีหรือไม่ ถือเป็นความถดถอย

"เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตสุขภาพดีขึ้นของคนไทยทุกช่วงวัย ขอให้มั่นใจว่าท่านสามารถแทงเรื่องขึ้นมาให้ผมเพื่ออนุมัติได้เลย ไม่ต้องพิจารณา เพราะผมเชื่อมือและดุลยพินิจในข้อเสนอของท่าน ผมจะดูอย่างเดียวว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนแล้ว ผมไม่ลังเลเลยที่จะบันดาลสิ่งเหล่านั้นให้เกิดในขอบข่ายอำนาจหน้าที่ที่ผมมี" นายอนุทินกล่าว


นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำแล้วคือลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข เป็นบันไดขั้นแรกสู่ความเป็นธรรมด้านสุขภาพ เราขอให้ สปสช.ลดความเหลื่อมล้ำด้วยการเพิ่มสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล ทั้งสิทธิการฟอกไตครอบคลุมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการล้างไตทางช่องท้อง ฟอกเลือดผ่านเครื่อง สิทธิในการเข้ารักษาในที่ที่สะดวก สิทธิดูแลผู้สูงอายุ เช่น ผ้าอ้อม และมีสิทธิประโยชน์อื่นที่จะเพิ่มไปเรื่อยๆ ตามการเสนอของ สปสช. อย่าง "โควิด" ทำให้เห็นว่าเท่าเทียมกันจริงๆ ต้องรับยา วัคซีน และการดูแลรักษาจากรัฐ ทำให้ได้รับบริการได้อย่างถ้วนหน้า

"จริงๆ อยากให้มีเครื่องฉายรังสีมะเร็งในทุกจังหวัดที่มีได้ ทุกจังหวัดมีคนป่วยมะเร็งเป็นร้อยเป็นพัน ก็มีคุณค่าที่จะมีเครื่องฉายรังสีในทุกจังหวัด แม้จะขาดแคลนเทคนิคการแพทย์และนักฟิสิกส์ แต่ถ้า create demand มีเครื่อง มีแพทย์ มีคนป่วย ก็จะมีคนไปเรียนทางด้านนี้ ทำให้เกิดการเทรนนิ่งและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทุกคนได้" นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าคนไทยเต็มไปด้วยการเจ็บป่วย การดูแลก็ไม่ไหว จึงเป็นที่มาของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ตระกูล ส ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็ตระกูล ส เช่นกัน ท่านอย่าแยก เพราะ สธ.เป็นแม่ ส ดังนั้น สช. สปสช. สสส. สวรส. ส ด้านสาธารณสุข ต้องมาช่วยกันคิดงานใหญ่ เพราะเราตัดสินใจดูแลครอบคลุมทั้งผระเทศ ถอยไม่ได้ ให้แล้วเอาคืนไม่ได้ ต้องร่วมกันเป็นเครือข่าย ทำอย่างไรให้คนไม่ป่วย ใช้เครือข่ายต่างๆ อย่าง อสม. ต้องลุยสร้างสุขภาพด้วยการรณรงค์ มีความเข้าใจสุขภาพ สร้างสังคมที่ผู้สูงอายุทำงานได้ ต้องเริ่มคิดความเป็นธรรมด้านสุขภาพตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมื่อป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากรัฐที่เสียภาษี เกิดมาเป็นคนไทยที่มีสิทธิ

นายอนุทินให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในฐานะรัฐมนตรี สธ. หากต้องให้คะแนนระบบสาธารณสุขไทยก็ต้องให้เต็มร้อยกับระบบและบุคลากร ส่วนรัฐมนตรีให้ 60 คะแนน แต่รัฐมนตรีมีทีมงานที่เก่ง มีเพื่อนร่วมงานด้านสาธารณสุขที่เก่งและทุ่มเทเสียสละ รวมถึงประชาคมต่างๆ ทั้ง อสม. อาสาสมัครจิตอาสาทำงานช่วยเหลือระบบสาธารณสุขของไทย ทำให้เราได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก องค์การอนามัยโลกบอกเราเป็นแชมเปียน ขอให้รักษาไว้ และนำเราไปเป็นมาตรฐานต่างๆ


ทั้งนี้ นายอนุทิน พร้อมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) และเครือข่ายสมัชชาสุขภาพ ประกาศเจตนารมณ์เพื่อร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.สนับสนุนให้มีการใช้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว เพื่อยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือนฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดความยากจนข้ามรุ่น และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2.จะสนับสนุนให้ประชาชนมีการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และมีกิจกรรมทางกายอื่นๆ สะสมเป็นข้อมูลกลางเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ควบคุมป้องกันโรค และสร้างสังคมสุขภาวะ และ 3.จะสนับสนุนให้มีระบบหลักประกันรายได้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ เพื่อความมั่นคงและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยสูงอายุให้กับประชาชนทุกคน


กำลังโหลดความคิดเห็น