xs
xsm
sm
md
lg

แจงสาเหตุวิ่งเทรล 80 กม.จน "ไตวาย" เหตุขาด "น้ำ" อย่างมาก เตือนฟังเสียงร่างกาย อย่าฝืน ชดเชยน้ำทุก 30-60 นาที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทย์แจงสาเหตุ "ไตวาย" หลังวิ่งเทรล 80 กม. เกิดจากร่างกายขาดน้ำอย่างหนัก ทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงที่ไต ย้ำระหว่างออกกำลังกายควรดื่มน้ำให้พอ ทุก 30 หรือ 60 นาที หรือเริ่มมีอาการคอแห้ง เตือนอย่าฝืน ฟังสัญญาณร่างกาย หากวิงเวียน อ่อนเพลีย ปัสสาวะไม่ออก เข้าข่ายขาดน้ำ หากแน่นหน้าอก ใจสั่น หน้ามืดจะเป็นลม อาจเกี่ยวกับหัวใจ

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นพ.อุดม อัศวุฒมางกุร ผอ.กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักกีฬาวิ่งเทรล 80 กิโลเมตร หลังวิ่งเสร็จเกิดภาวะไตวาย จนต้องเข้ารับการรักษา ว่า การเกิดภาวะไตวายจากกรณีดังกล่าวน่าจะเกิดจากการขาดน้ำมากกว่า ถ้าปกติร่างกายเรามีน้ำเพียงพอ การหมุนเวียนเลือดไปที่ไต จะทำให้ไตทำงานปกติ แต่เมื่อเราวิ่งเยอะๆ เสียน้ำในรูปแบบของเหงื่อ แล้วไม่มีการชดเชยน้ำหรือเกลือแร่อย่างเหมาะสม หรือขาดน้ำแล้วยังออกแรงเยอะ ร่างกายจะส่งเลือดไปยังหัวใจและสมองก่อน มิเช่นนั้นร่างกายจะแย่และอันตรายได้ จึงทำให้อวัยวะที่เลือดไหลเวียนไปน้อยก่อน คือ ไต เมื่อเลือดไปเลี้ยงที่ไตลดลง ซึ่งอวัยวะใดๆ ที่ขาดเลือดไปเลี้ยง จะทำให้การทำงานไม่ดี ทำให้ไตไม่ทำงานและปัสสาวะไม่ออก และเกิดภาวะไตวายได้

"อาการเหล่านี้หากรับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็มีโอกาสที่ไตกลับมาทำงาน แต่ลำดับแรกคือการป้องกันก่อน โดยดื่มน้ำให้พอ ระหว่างทางก็ดื่มน้ำให้เหมาะสม ถ้าอากาศร้อนต้องชดเชยให้เหมาะสม ถ้ามีอาการก็ต้องรีบสงไปรักษา ให้น้ำเกลือให้เหมาะสม และต้องดูอย่างอื่นด้วย เช่น เกลือแร่มีปัญหารือไม่ เพราะขับไม่ออกเลย หรือต้องได้สารน้ำอื่นเข้าไปชดเชย เป็นต้น" นพ.อุดมกล่าว

นพ.อุดมกล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ขอให้ตระหนักแต่ไม่ตระหนก เพราะการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วการออกกำลังกายทั่วๆ ไป ไม่เกินลิมิต เกิดผลดีมากกว่าโทษมากๆ อยู่แล้ว แต่การออกกำลังกายที่ค่อนข้างจะมาก อย่างการวิ่งเทรล 80 กิโลเมตร ไม่ใช่คนปกติ แต่เป็นนักกีฬามืออาชีพ แต่ขนาดเป็นนักีฬามืออาชีพก็ยังต้องระมัดระวังภาวะแทรกซ้อนอย่างนี้เช่นกัน


ถามถึงการสังเกตสัญญาณเตือนว่า ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไประหว่างวิ่งหรือออกกำลังกายอย่างอื่น นพ.อุดมกล่าวว่า เวลาออกกำลังกายแน่นอนว่า ต้องเสียน้ำ เหงื่อ หรือเกลือแร่อยู่แล้ว แต่การออกกำลังกายทั่วไปประมาณ 30 นาที ก็ไม่ต้องกังวล เพราะร่างกายปรับตัวได้ หรือออกกำลังกายสัก 1 ชั่วโมง เมื่อหยุดแล้วดื่มน้ำก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งปกติทั่วๆ ไปก็วิ่งกันประมาณ 5-10 กิโลเมตร โดยแนะนำว่าประมาณ 30 นาที หรือ 60 นาทีควรดื่มน้ำชดเชยบ้าง ส่วนอาการขาดน้ำ เนื่องจากน้ำและเลือดไม่ค่อยพอ ร่างกายก็จะรู้สึกวิงเวียน อ่อนเพลีย ปัสสาวะไม่ค่อยออก เป็นอาการที่บอก

ถามต่อว่านักวิ่งระยะไกลบางส่วนมักทำสถิติ ทำให้วิ่งต่อเนื่องไม่หยุดเป็นเวลานาน ควรแนะนำอย่างไร นพ.อุดมกล่าวว่า กีฬาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือดูแลสุขภาพเป็นหลัก ว่าอากาศร้อนไปไหม รับน้ำและเกลือแร่อย่างเพียงพอ ต้องเฝ้าระวังอาการผิดปกติ ไม่ใช่แค่ไตอย่างเดียว รวมถึงหัวใจด้วย หากมีอาการแน่นหน้าอก วิงเวียน ใจสั่น หน้ามืดจะเป็นลม ต้องฟังเสียงร่างกายเรา ต้องหยุด อย่าฝืน แล้วปฐมพยาบาล จะมีการประเมินความดันและชีพจร รวมถึงให้สารน้ำที่เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างเหมาะสมดูแลสุขภาพ

ถามว่าการดื่มน้ำก่อนออกกำลังกายไปก่อนจะช่วยลดการขาดน้ำได้มากขึ้นหรือไม่ นพ.อุดมกล่าวว่า การดื่มน้ำห้ามากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี เพราะถ้ามากไปออกกำลังกายก็จุกได้ แต่ถ้าวิ่งออกกำลังกายแล้วคอแห้งนิดหน่อยอาจจะต้องไปเติมน้ำแล้ว ให้ดูความเหมาะสมมากกว่า ซึ่งการจัดงานวิ่งโดยทั่วไปต้องมีกจุดให้น้ำตามระยะทางที่เหมาะสมตามมาตรฐานการจัดงาน คือ ทุกประมาณ 2-4 กิโลเมตรที่จะมีจุดให้บริการน้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น