xs
xsm
sm
md
lg

“สาธิต” แจงราชกิจจาฯ ประกาศถอดมาสก์ตามสมัครใจ ย้ำยังมีเงื่อนไข เมื่อเว้นระยะห่าง-สถานที่เสี่ยงยังต้องสวม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สาธิต” แจงราชกิจจาฯ ประกาศถอดมาสก์ตามสมัครใจ แต่ยังขอให้ทำตามคำแนะนำ คือ เมื่อเว้นระยะห่างจากผู้อื่นได้ ส่วนสถานที่หรือพื้นที่เสี่ยง ยังควรต้องสวม เพื่อป้องกันโรค ด้านกรมอนามัย ย้ำ พนักงานให้บริการใกล้ชิด ยังต้องสวมหน้ากากตามข้อกำหนด

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้สวมหน้ากากอนามัยตามความสมัครใจ ว่า กรมอนามัยได้ออกคำแนะนำ ให้ความรู้ประชาชนถึงพื้นที่ หรือสถานที่ที่สามารถเปิดหน้ากากได้ตามสมัครใจ โดยเน้นย้ำว่า ยังต้องเว้นระยะห่างจากผู้อื่น และยังแนะนำให้สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อโควิดช่วงนี้อาจจะไม่มาก แต่ก็พบว่าเริ่มสูงขึ้น เนื่องจากอาจมีการผ่อนคลายกิจกรรม เช่น สถานบันเทิง ฉะนั้น อยากให้คำแนะนำแก่ประชาชน ว่า ขอให้ทุกคนเคร่งครัดตามคำแนะนำของกรมอนามัย ทั้งในส่วนที่ถอดหน้ากากได้ หรือคำแนะนำในส่วนที่ยังควรต้องใส่อยู่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อได้ แม้การติดเชื้อจะอาการไม่รุนแรง แต่อย่าลืมว่าบางส่วนอาจเป็นลองโควิดที่เรื้อรังด้วย การไม่ติดเชื้อจึงดีที่สุด

“ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในการถอดหน้ากากอนามัยด้วยความสมัครใจในสถานที่ต่างๆ ตามคำแนะนำ และควรใส่หน้ากากในสถานที่มีความเสี่ยง เป็นเรื่องที่ควรตระหนักให้ดี” นายสาธิต กล่าวและว่า ส่วนโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก็ติดตามข้อมูลอยู่ แต่ยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนว่ามีความรุนแรงขึ้น ดังนั้น เราจะต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อ รวมถึงอาการของผู้ป่วยว่ามีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ต่อไป

เมื่อถามว่า ยังคงต้องเข้มงวดเรื่องใส่หน้ากากในกลุ่มผู้สัมผัสอาหารและร้านอาหารหรือไม่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยกำหนดสถานที่และกิจกรรม ว่า พนักงานและผู้บริการที่ต้องใกล้ชิดผู้คน ให้สวมหน้ากากตลอดเวลาที่ให้บริการ ถ้าไม่ให้บริการอาจไม่ต้องสวม งานที่ไม่ต้องสัมผัสใกล้ชิดผู้มารับบริการก็อาจไม่ต้องสวม ทั้งนี้ กลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น สำหรับประชาชนทั่วไป หากเป็นสถานที่ภายนอกอาคาร ที่โล่งแจ้ง ถอดหน้ากากได้ แต่ยังควรสวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น โดยไม่สามารถเว้นระยะห่าง มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หรือมีการระบายอากาศไม่ดี เช่น ขนส่งสาธารณะ ตลาด สนามกีฬา หรือสถานที่แสดงดนตรี ที่มีผู้ชม


กรณีอยู่ภายในอาคารให้สวมหน้ากาก สามารถถอดได้ในกรณีที่อยู่คนเดียว หากอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่พำนักเดียวกัน ต้องสามารถเว้นระยะห่างได้ ไม่รวมกลุ่มแออัด ให้อยู่ในที่ระบายอากาศได้ดี และกรณีมีกิจกรรมที่จำเป็น ต้องถอดหน้ากาก เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย บริการบริเวณใบหน้า ศิลปะการแสดง เป็นต้น โดยให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เมื่อกิจกรรมนั้นเสร็จสิ้น ควรสวมหน้ากากทันที

สำหรับสถานที่ประกอบกิจการ หรือกิจกรรมกำหนดเงื่อนไข ดังนี้ 1. ผู้ให้บริการ ขอให้สวมหน้ากากตลอดเวลาขณะให้บริการ โดยได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้น ให้ตรวจ ATK เมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง ส่วนผู้ติดเชื้อ ให้งดมาปฏิบัติงาน และผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงไปทำงานได้ แต่ให้แยกพื้นที่กับผู้อื่น 2. สถานที่ให้ปฏิบัติตามหลักของสุขาภิบาล และอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด โดยจัดให้มีอุปกรณ์และสถานที่ล้างมือ อย่างเพียงพอ มีการทำความสะอาด มีการจัดการของเสีย ส้วมและสิ่งปฏิกูลเป็นไปตามมาตรฐาน พื้นที่สัมผัส/อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน ให้ทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง จัดให้มีการระบายอากาศ และกำหนดความจุคนในอาคาร ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

“อากาศในประเทศไทยค่อนข้างร้อน แต่หลังมีประกาศให้ถอดหน้ากากได้ตามความสมัครใจ ส่วนใหญ่เราก็ยังเห็นคนสวมหน้ากากอยู่ เพื่อความปลอดภัยและคนส่วนใหญ่ก็เริ่มคุ้นชิน และการที่ให้คนถอดหน้ากากแบบมีเงื่อนไข เพื่อเป็นการเตือนประชาชนว่าเรายังมีความเสี่ยง และเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ที่ยังอยากสวมหน้ากาก ไม่ให้ถูกเลือกปฏิบัติ หรือถูกบลูลีว่าเป็นคนป่วย หรือคนในบ้านไม่สบาย การออกมาตรการแบบกลางๆ ให้ปฏิบัติโดยสมัครใจแต่มีเงื่อนไข ก็จะได้สามารถเปลี่ยนผ่านระยะนี้ไปได้ เชื่อว่า หากพบว่าการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แล้ว ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น อาการรุนแรง หรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เชื่อว่าประชาชนจะหันกลับมาขันนอตปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดอีกครั้ง แต่คงไม่มีมาตรการควบคุมเข้มงวดเหมือนในอดีต” นพ.สุวรรณชัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น