คณบดีแพทย์ จุฬาฯ ชี้นโยบายกัญชาย้อนแย้ง มีความเป็นสีเทา เชื่อมีเพียบอ้างข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ แต่ใช้สันทนาการ จับมือ ร.ร.แพทย์-รพ.เอกชน เฝ้าระวังเก็บทุกเคสผลกระทบจากกัญชาเสรี ไม่หวังพึ่งรายงานจาก สธ. หวั่นสร้างความชอบธรรมออก กม.ควบคุมเบาโหวง คุย “ชัชชาติ” เฝ้าระวังในโรงเรียน
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวในงานเสวนาของศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมามีนโยบายทางการเมืองผลักดันเรื่องการใช้กัญชา ซึ่งเห็นถึงการย้อนแย้งของนโยบายที่ประกาศและการปฏิบัติจริง โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เน้นเสมอ คือ 1.ใช้กัญชาทางการแพทย์ 2.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และ 3.ไม่ส่งเสริมสันทนาการ แต่ทั้ง 3 คำนี้มีความย้อนแย้งกันมาก เพราะการใช้กัญชาทางการแพทย์มีใช้อยู่ 3-4 อย่าง คือ เป็นยาแผนปัจจุบัน มีข้อบ่งชี้ 6-7 โรค ส่วนใหญ่เป็นยาแผนโบราณ มีสูตรต่างๆ มากมายถือว่าสีเทาพอสมควร ถ้าควบคุมการผลิตดี คุมปริมาณให้เหมาะสมก็จะไม่เกิดผลเสียมากนัก
“ที่น่ากังวลคือใช้สันทนาการ แต่อ้างข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่น อ้างว่าปวดหัว รู้สึกไม่สบาย แล้วจะยิ่งมีความเป็นสีเทามาก เชื่อว่าคนจะอ้างไม่น้อย นอกจากนี้ ยังมาในรูปแบบที่เราไม่เห็น เช่น ผสมในอาหาร พูดจริงๆ ว่า ตอนนี้ความจำเป็นต้องการใช้กัญชาเรามองไม่ค่อยเห็น แต่ Supply size โตขึ้นมหาศาล หากโตเกินความต้องการ อนาคตจะเกิดการลงใต้ดินไปขายที่อื่น จะต้องเฝ้าระวัง” รศ.นพ.ฉันชาย กล่าว
รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า ส่วนกรณีตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล คิดว่าความหวังจากกรรมการชุดนี้ไม่ได้เยอะมาก เพราะตอนแรกคาดหวังว่าจะได้นายวิษณุ เครืองาม เป็นประธาน ดังนั้นช่วงก่อนที่ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... จะออกมามา ตนได้มีการหารือร่วมกับโรงเรียนแพทย์และ รพ.เอกชนให้มีการเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพของประชาชนอย่างมาก เก็บทุกเคส เพราะถ้ารอการรายงานจาก สธ.คงยาก หากมีปัญหาเกิดขึ้นแต่ไม่รายงานจะกลายเป็นความชอบธรรมให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และออกมาเบามาก เพราะอ้างได้ว่าขนาดเสรีแล้วยังไม่เห็นมีปัญหาอะไร นอกจากนี้ ยังได้คุยกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม.ให้ช่วยเฝ้าระวังการใช้ในโรงเรียน ดังนั้น เราต้องรวมกลุ่มกันและหาข้อมูลเชิงประจักษ์ชัดเจน
สำหรับ ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ที่ผ่านการรับร่างมี 2 ร่าง คือร่างของพรรคภูมิใจไทย คือกัญชาเสรีเลย และร่างของพรรคพลังประชารัฐ เน้นใช้ทางการแพทย์ ขณะนี้มีการตั้งกรรมาธิการ 25 คน แต่ ส.ส.ไม่ยอมให้ทางเราเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการ จึงต้องอาศัยการเข้าไปร่วมเป็นที่ปรึกษา ซึ่งมีแล้ว 1 ท่าน ยังเหลืออีก 1 ท่านที่ต้องส่งชื่อเข้าไป อย่างน้อยการเข้าไปเป็นที่ปรึกษาจะได้เข้าร่วมและให้ความเห็นในที่ประชุมกรรมาธิการ ซึ่งเชื่อว่าเนื่องจากตอนนี้ฟรีอยู่ ต้องมีความพยายามผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.ผ่านโดยเร็วแน่นอน ถ้าผ่านออกมาจะเป็นฉบับที่ปล่อยมาก และจะเป็นปัญหามาก