xs
xsm
sm
md
lg

หากอยากเปิดประเทศปลอดภัย กลับมาใช้ชีวิตปกติ ต้องฉีดวัคซีนเข็มสามเกิน 60% พบป้องกันป่วยหนัก-ดับ 93%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมควบคุมโรค ย้ำ เปิดประเทศปลอดภัย ใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ ต้องฉีดเข็มสามให้ได้ 60% ขึ้นไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงป่วยอาการรุนแรง เพื่อไม่ให้ต้องเข้ารักษาใน รพ. ย้ำฉีด 2 เข็มป้องกันติดเชื้อโอมิครอนไม่ได้ ป้องกันป่วยรุนแรงปานกลาง แต่เข็มสามขึ้นป้องกันติดเชื้อไม่สูง แต่ป้องกันป่วยรุนแรงและเสียชีวิตถึง 93%

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงประสิทธิผลวัคซีนโควิด 19 จากการใช้ริงในช่วงการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ว่า แม้ปัจจุบันการระบาดของโควิดเริ่มลดลงตามลำดับ การควบคุมโรคประสบผลสำเร็จมาจากมาตรการสวมหน้ากากและฉีดวัคซีน โดยวัคซีนที่ประเทศไทยฉีดมีประสิทธิภาพดีจริงหรือไม่ ทำไมฉีดแล้ว 2 เข็ม 3 เข็ม หรือ 4 เข็มก็ยังติดอยู่ และยังมีคนเสียชีวิต จึงอยากทำความเข้าใจ ทั้งนี้ จากข้อมูลคณะทำงานศูนย์ประเมินผลประสิทธิผลและประสิทธิภาพวัคซีน กรมควบคุมโรค ได้นำข้อมูลการใช้วัคซีนโควิดจริงในประเทศช่วง 3 เดือน คือ ม.ค.- มี.ค. 2565 ซึ่งเป็นการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน มาศึกษาว่าคนที่รับวัคซีนกับไม่ได้รับวัคซีน มีการติดเชื้อ การป่วย และการเสียชีวิตแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน โดยผลจากการศึกษาข้อมูลในระดับประเทศ ซึ่งนำข้อมูลมาจากคนรับการตรวจ ATK ทั้งหมด และผู้ที่มีผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก เปรียบเทียบคนที่ไม่ได้รับวัคซีนกับได้รับวัคซีนว่า ใครติดเชื้อจำนวนเท่าไร มีอาการป่วยรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และเสียชีวิตเท่าไร

จากข้อมูลการศึกษากว่า 5 แสนราย จากคนฉีดวัคซีนทั้งประเทศ พบว่า ประสิทธิผลในบุคคลที่รับวัคซีน 2 เข็มปกตินั้น แทบไม่ป้องกันติดเชื้อโอมิครอนเลย ป้องกันการติดเชื้อได้น้อยมาก การป้องกันต้องเป็นช่วงที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มใหม่ๆ ระยะเวลาผ่านไปแทบไม่ป้องกันเลย แม้ติดเชื้อแต่อาการไม่ค่อยมาก โดยประสิทธิผลป้องกันป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ 75% จึงอยากรณรงค์ให้ฉีดวัคซีน 3 เข็ม แม้ป้องกันติดเชื้ออาจไม่สูงคือประมาณ 15% แต่ประสิทธิผลป้องกันป่วยหนักจะสูงขึ้นเป็น 93% บางคนรับการฉีด 4 เข็ม ป้องกันติดเชื้อโอมิครอน จะป้องกันสูงขึ้นบ้างจนถึง 76% ไม่ได้ 100% จึงเห็นทำไมฉีด 4 เข็มยังติดเชื้อได้ แต่ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต 96% และที่ศึกษายังไม่พบฉีด 4 เข็มเสียชีวิต

“ยืนยันว่า การใช้วัคซีนทุกสูตรในประเทศไทย ประสิทธิผลป้องกันป่วยรุนแรงและเสียชีวิตสูง เป็นที่มาว่าทำไม หากเราอยากเปิดประเทศกลับไปใช้ชีวิตปกติ ไม่อยากเห็นคนป่วยเข้า รพ. ต้องฉีดวัคซีนให้มากที่สุด” นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวและว่า ช่วงนี้สถานการณ์ทั่วโลกแนวโน้มลดลง รวมถึงไทย หากจะมุ่งกลับไปใช้ชีวิตปกติ ประชาชนควรร่วมมือฉีดวัคซีน 3 เข็มอย่างน้อยให้ครบทุกคน ทำให้มั่นใจว่า กลับเข้าสู่ชีวิตปกติช่วงวันที่ 1 ก.ค. จะไม่เผชิญสภาพคนป่วยหนัก ตอนนี้ผู้สูงอายุฉีดเข้ม 3 เพียง 43% เหลืออีก 6 ล้านคนยังไม่ฉีด คนทั่วไป 40% เหลืออีกจำนวนมาก ส่วนการฉีดเข็ม 4 หากต้องการฉีดก็พร้อมสนับสนุน ตอนนี้มีวัควีนพอเปิดให้ทุกคนที่ฉีดเข็มสามไปแล้ว 4 เดือนมาฉีดได้ แต่ก็เน้นผู้สูงอายุ

ถามว่า ตอนนี้การฉีดเข็มสามยังน้อยอยู่ นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า หากอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติ ขอให้คนเสี่ยงป่วยรุนแรงฉีดเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 60% ขึ้นไป หากเปิดประเทศใช้ชีวิตปกติโดยคนฉีดวัคซีนไม่มาก ก็เสี่ยงการเจอผู้สูงอายุเจ็บป่วยกลับเข้าไปสู่ รพ. ขอให้ช่วยกันพาคนเสี่ยงป่วยรุนแรงมาฉีดเข็มสาม หากจะเปิดประเทศอย่างปลอดภัย แม้โควิดระยะหลังรุนแรงน้อยก็เฉพาะคนฉีดวัคซีนครบและคนวัยหนุ่มสาว หากไม่ครบก็ยังรุนแรงแต่น้อยกว่าตอนเดลตา ประเทศอื่นเปิดเพราะฉีดวัคซีนได้สูงมากแล้ว คนที่คิดว่า 2 เข็มพอแล้วนั้น คนไม่อยากฉีดเข็มสามมี 2 ส่วน คือ คิดว่าพอแล้ว ซึ่งอาจจะไม่พอบ เพราะประสิทธิผลปานกลางในการป้องกันป่วยหนัก อยากให้คนเสี่ยงสูงฉีด 3 เข็มจะปลอดภัยมากขึ้น ส่วนที่กลัวผลข้างเคียง เราฉีดเยอะมาก ส่วนใหญ่ผลข้างเคียงไม่รุนแรง เช่น ไข้ ปวดเมื่อย ยืนยันว่า ทั้งในไทยและต่างประเทศ วัคซีนที่ใช้ปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงไม่รุนแรง เทียบกับโคิวดใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิต

“อสม.ก็เคาะประตูบ้าน วัคซีนกระจายไป รพ.สต.แทบทุกแห่ง สธ.มีนโยบายว่าฉีดวัคซีนได้ไม่ต้องนัดล่วงหน้า กำลังเร่งดำเนินการ ตอนนี้เป้าหมายวัคซีนพื้นฐานคือเข็มสามสำหรับประชาชนทุกคน ระยะถัดไปขึ้นกับสถานการณ์โลกจะมีสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ วัคซีนเราก็ต้องสอดคล้อง และที่ใช้ในปัจจุบันจะป้องกันติดเชื้อได้นานแค่ไหน แต่ป้องกันเสียชีวิตได้นานเกิน 6 เดือนแน่ ระยะนี้ยังอยู่ในช่วงวางแผนเตรียมการล่วงหน้า และพร้อมปรับเปลี่ยนวัคซีนให้สอดคล้องตัวเชื้อที่กลายพันธุ์แล้วจะดื้อวัคซีนในปัจจุบันหรือไม่” นพ.ทวีทรัพย์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น