กรมสุขภาพจิตเผยหลงเชื่อสิ่งผิด ลัทธิประหลาด เหตุขาดความมั่นคงจิตใจ ขาดแหล่งข้อมูลสุขภาพ สิ่งแวดล้อมคนรอบตัวมีความเชื่อ ทำให้ถูกชักจูงง่าย ส่วนคนชักจูงบางคนอาจป่วยจิตหรือมีเรื่องผลประโยชน์ ส่งศูนย์สุขภาพจิตทั่วประเทศ ให้ความรู้ ประเมินสุขภาพจิต ช่วยกลุ่มเสี่ยงเข้าถึง
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาการหลงเชื่อ จากกรณีสำนักพระบิดาที่มีการให้กินสิ่งปฏิกูล ว่า คนที่มีแนวโน้มเชื่อในสิ่งเหล่านี้ หรือสิ่งเหนือธรรมชาติ พื้นฐาน คือ คนที่ขาดความมั่นคงในจิตใจในทุกด้านหรือบางด้าน เช่น หากถูกชักจูงเรื่องสุขภาพ อาจเพราะอยู่ในสภาพของโรคที่หาคำตอบไม่เจอ อย่างบางคนที่อยู่ในกลุ่มที่เชื่อว่า โรคที่ร้ายแรง รักษาไม่หาย เช่น มะเร็ง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อย่างเบาหวาน ซึ่งมีรายละเอียดของการดูแล และตนเองไม่สามารถจัดการได้ ก็มีแนวโน้มจะเชื่อสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เพื่อให้รู้สึกว่ามีสิ่งยึดเหนี่ยว มีความหวัง แต่หากเข้าถึงข้อมูลที่ชัดเจนเพียงพอก็จะมีความเข้าใจ และนำไปปฏิบัติได้
"ตรงกันข้ามหากอยู่ห่างไกลจากแหล่งข้อมูลที่ดี และไม่ได้มีพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดี จนเกิดความเชื่อถือ เชื่อมั่นก็ยิ่งเกิดข้อจำกัด สิ่งแวดล้อมก็สำคัญ หากมีครอบครัว กลุ่มเพื่อน ชุมชนที่เอนเอียงไปกับความเชื่อประจำท้องถิ่น อาจมีมิติของไสยศาสตร์มาเกี่ยวข้อง ย่อมมีแนวโน้มเชื่อไปในทิศทางนั้นได้ เมื่อมีองค์ประกอบหลายอย่างมารวมกัน พอมีคนที่มีความคมชัดกว่า ผู้ที่หวั่นไหว ไม่มั่นคงก็จะคล้อยตามคนที่แข็งแรง ชัดเจนกว่า มีการตามกันไป เราจะเห็นปรากฎการณ์แบบนี้เรื่อยๆ แต่รูปแบบจะแตกต่างกันไป" พญ.อัมพร กล่าว
พญ.อัมพรกล่าวว่า กรมสุขภาพจิต มีการลงไปประเมินตั้งแต่ผู้นำความคิดเรื่องนี้ว่า เป็นอย่างไร รวมไปถึงกลุ่มที่เชื่อถือคล้อยตาม ก็ประเมินว่า มีจุดอ่อนอย่างไร พร้อมประเมินสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ สิ่งสำคัญต้องปกป้องสุขภาพก่อน หากมีผลต่อสุขภาพต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือทั้งกายและใจ ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์สุขภาพจิตดูแลทั่วประเทศ หากครอบครัวหรือญาติมีข้อกังวล หรือแนวโน้มหลงเชื่อง่ายสามารถปรึกษา รพ.จิตเวชทุกแห่งได้ ที่ผ่านมาศูนย์สุขภาพจิตคอยสอดส่องดูแลในพื้นที่มาตลอด
เมื่อถามว่า คนที่สามารถชักจูงคนอื่นในทางที่ผิด กลุ่มนี้มีปัญหาทางจิตเวชหรือไม่ พญ.อัมพร กล่าวว่า ต้องประเมิน บางคนก็มีปัญหาทางจิตใจ แต่บางคนเป็นเรื่องผลประโยชน์ สิ่งสำคัญอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ต้องหนักแน่น วิเคราะห์แยกแยะให้เป็น ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ศูนย์สุขภาพจิตทั่วประเทศสอดส่องดูแลปรากฎการณ์ลักษณะนี้ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อให้เข้าถึงทางเลือกในการแก้ปัญหาสุขภาพที่เป็นวิทยาศาสตร์ ประเมินด้านสุขภาพจิต ปัญหาจิตเวชต่างๆ เพราะผู้เกี่ยวข้องบางส่วนอาจมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตที่ยังไม่ได้รับการประเมินและดูแลรักษา เป็นโอกาสในการดูแลและช่วยให้กลุ่มเสี่ยงเข้าถึงการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม