สบส.ลุยตรวจคลินิกย่านรามคำแหง ปมแพทย์ลวนลามคนไข้สาว คาด 1 สัปดาห์รู้ผล เตือนทุกแห่งเข้มมาตรฐานความปลอดภัย จัดบุคคลที่ 3 ปฏิบัติหน้าที่ร่วมผู้ให้บริการ ชี้หากผิดจริงมีโทษอาญา และผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล
เมื่อวันที่ 9 พ.ค นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีคนไข้สาวถูกแพทย์ลวนลามทางเพศ ว่า สบส.ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากกองกฎหมาย กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ดำเนินการร่วมกับแพทยสภา ตรวจสอบข้อเท็จจริงคลินิกที่ถูกกล่าวอ้าง คาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบได้ภายใน 1 สัปดาห์ และเพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระทำผิดในลักษณะเจ้าหน้าที่ลวนลาม หรือกระทำการอนาจารผู้รับบริการเกิดขึ้นอีก สบส.ขอเน้นย้ำให้ ผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล เข้มมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้รับบริการ โดยเฉพาะในพื้นที่ของห้องตรวจโรคที่พื้นที่ปิดมิดชิด จะต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ชาย หรือหญิงในฐานะบุคคลที่ 3 คอยเฝ้าระวัง ดูแล ระหว่างการรักษาพยาบาลตามความเหมาะสม
กรณีที่ผู้รับบริการเป็นหญิงก็ควรจะจัดให้มีเจ้าหน้าที่หญิงร่วมดูแลระหว่างรับบริการ ไม่ควรปล่อยให้อยู่เพียงลำพังกับเจ้าหน้าที่ชาย หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลย ให้มีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด สบส.จะดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 โดยทันที
ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าวหากพบมีความผิดจริง จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่ 1.ความผิดทางอาญาของตัวผู้กระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ และ 2.ความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 34 (2) กับตัวผู้ดำเนินการสถานพยาบาลในฐานไม่ควบคุม ดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพของตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 34 (4) ฐานไม่ควบคุม ดูแลสถานพยาบาลให้สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย และมีลักษณะเหมาะสม ซึ่งมีระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท อีกทั้ง จะมีคำสั่งตามมาตรา 50 ให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว 30 วันอีกด้วย