สธ.จับมือ สปสช.ผุดโครงการแจกผ้าอ้อมผู้สูงอายุในกลุ่มติดเตียง มีโรคประจำตัว ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ที่มีการลงทะเบียนไว้ในแต่ละจังหวัด ตั้งเป้าแจก 3 ผืนต่อวัน หวังช่วยดูแลเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ย้ำจัดหาผ้าอ้อมมีมาตรฐานการซึมซับ
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ. ประจำเดือน พ.ค. 2565 ว่า ที่ประชุมมีการรายงานผลเรื่ององค์การอนามัยโลก (WHO) สรุปการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า หรือ Universal Health and Preparedness Review (UHPR) กรณีการรับมือโควิด 19 ซึ่งผลออกมาเป็นไปในทางบวก มีประโยชน์ต่อประเทศไทย ซึ่งผู้ที่นำทีมมาสำรวจ ตรวจสอบคุณภาพ คือผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ที่ยืนยันคือ รัฐบาลไทยและผู้นำของประเทศ คือ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความใส่ใจ โดยใช้อำนาจทางการเมืองมาสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายโครงการต่างๆ เพื่อมาต่อสู้กับโควิดอย่างเต็มที่ เป็นปัจจัยหลักสำคัญในการควบคุมสถานการณ์
สำหรับข้อเสนอแนะของ WHO หลายๆ อย่าง คือสิ่งที่ สธ.จะปฏิบัติ แต่ WHO มาตรวจสรุปช่วงนี้ก่อน ซึ่งข้อเสนอแนะมีทั้งเรื่องของการบูรณาการข้อมูล พัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี การพึ่งพาตนเองด้านยา วัคซีน และชุดตรวจ ซึ่งเราก็ดำเนินการอยู่ปล้ว อย่างชุดตรวจก็มีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เรื่องยากมีองค์การเภสัชกรรม โดยจัดให้มียาในทุกชนิด เราก็ดำเนินการจัดการอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอเรื่องต่างๆ ของแต่ละกรม เช่น การคัดกรองวัณโรค การคัดกรองมะเร็งปอด หรือกรมอนามัยที่ร่วมมือกับ สปสช. สนับสนุนผ้าอ้อมสำหรับผู้สูงอายุ เราจะเริ่มดำเนินการทันที โดยจัดผ้าอ้อมให้ผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีข้อกำหนด ผู้สูงอายุที่มีสภาพทางกายเช่นไรจะไปดูแล เช่น ติดเตียง มีโรคประจำตัว ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ไร้การดูแลที่ถูกสุขอนามัย จะมีการกระจายไป เป็นการปฏิบัติตามปกติที่กระจายไปจังหวัดจะไปดูแลตามทะเบียนที่ผู้สูงอายุมาลงทะเบียนไว้ ประมาณ 3 แผ่นต่อวัน
"ผมกำชับว่า เรื่องนี้เป็นการให้บริการดูแลผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน ต้องมีการตั้งมาตรฐานของการผ้าอ้อม ไม่ใช่ไปจัดซื้อที่ไม่มีมาตรฐานการซึมซับ ต้องมีการใช้มีการยอมรับในวงกว้างของประชาชน" นายอนุทินกล่าว