สถานการณ์“โควิด” ไทย ลดลงต่อเนื่อง ติดใหม่ 9.2 พันราย ป่วยหนัก-ใส่ท่อลดด้วย อัตราครองเตียงเหลือ 20.4% ยอดดับยังสูง 82 ราย แต่แนวโน้มขาลง พบ 1 ขวบตายเพิ่ม “มหาสารคาม” ดับมากสุด 7 ราย กทม.ยังติดเชื้อเกิน 3 พันราย 22 จังหวัด ระดับเกิน 100 ราย ส่วนต่ำร้อยมี 53 จังหวัด “นราธิวาส” รายงาน 0 วันแรก หลังเปิดประเทศแนวโน้มคนเข้าไทยติดเชื้อลดลง
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,288 ราย สะสม 4,290,824 ราย หายป่วย 19,119 ราย สะสม 4,153,310 ราย เสียชีวิต 82 ราย สะสม 28,860 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 108,654 ราย อยู่ใน รพ. 32,021 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 76,633 ราย มีอาการหนัก 1,638 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 776 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 20.4%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 82 ราย มาจาก 41 จังหวัด มหาสารคาม เสียชีวิตสูงสุด 7 ราย, กทม. 6 ราย, ชลบุรี 4 ราย โดยเสียชีวิต 3 ราย ใน 7 จังหวัด เสียชีวิต 2 รายใน 13 จังหวัด และเสียชีวิต 1 ราย ใน 18 จังหวัด ภาพรวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสียชีวิตรวมมากที่สุด 27 ราย ภาคกลางและตะวันออก 23 ราย ภาคเหนือ 16 ราย ปริมณฑล 8 ราย และภาคใต้ 2 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 43 ราย หญิง 39 ราย อายุ 1-100 ปี อายุเฉลี่ย 74 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 98%
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 3,061 ราย 2. บุรีรัมย์ 317 ราย 3. ศรีสะเกษ 300 ราย 4. สมุทรปราการ 270 ราย 5. ขอนแก่น 233 ราย 6. ชลบุรี 231 ราย 7. มหาสารคาม 231 ราย 8. อุบลราชธานี 201 ราย 9. นนทบุรี 170 ราย และ 10. ร้อยเอ็ด 165 ราย
ขณะที่จังหวัดติดเชื้อเกิน 100 ราย มีอีก 13 จังหวัด และจังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 53 จังหวัด จำนวนนี้เป็นจังหวัดที่ติดเชื้อน้อยกว่า 20 ราย มี 10 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง 18 ราย, ระนอง 13 ราย, สมุทรสงคราม 13 ราย, เชียงราย 12 ราย, ตรัง 10 ราย, แม่ฮ่องสอน 10 ราย, ปัตตานี 8 ราย, สตูล 7 ราย, ยะลา 3 ราย และ ลำพูน 3 ราย ส่วนจังหวัดรายงานเป็น 0 คือ นราธิวาส
สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 34 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 20 ราย ใน 8 ประเทศ โดยมาจากลาวมากที่สุด 6 ราย, เมียนมา 5 ราย, ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 6 ราย กักตัว 9 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 5 ราย จากเมียนมา
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565 จำนวน 349,634 โดส สะสม 134,030,976 โดส เป็นเข็มแรก 56,325,614 ราย คิดเป็น 81% เข็มสอง 51,399,669 ราย คิดเป็น 73.9% และเข็ม 3 ขึ้นไป 26,305,693 ราย คิดเป็น 37.8% ภาพรวมผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็ม 3 แล้ว 41.6%