โค้งสุดท้ายสงกรานต์ สรุป 6 วันเกิดอุบัติเหตุ 1,720 ครั้ง เจ็บ 1,696 คน ดับ 237 ศพ "เชียงใหม่" เกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บสะสมสูงสุด "กทม." ตายมากสุด พบซิ่ง-ดื่มยังทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด สั่งเข้มวันสุดท้ายกลับ กทม. เพิ่มช่องทางพิเศษ เรียกตรวจรถมากขึ้น สกัดหลับใน เข้มทางตรงระยะยาว
เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ว่า วันที่ 16 เม.ย. 2565 เป็นวันที่หกของช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ เกิดอุบัติเหตุ 241 ครั้ง บาดเจ็บ 246 คน เสียชีวิต 28 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 41.49 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.31 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.34 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.59 และถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 38.17 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 80.91 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 19.00 น. ร้อยละ 10.37 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี ร้อยละ 22.63 โดยเชียงรายเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 11 ครั้ง และเสียชีวิตสูงสุด 3 ราย ส่วนลำปางบาดเจ็บสูงสุด 11 คน ตั้งจุดตรวจหลัก 1,900 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 410,818 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 70,180 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 19,264 ราย ไม่มีใบขับขี่ 18,388 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน ระหว่างวันที่ 11 – 16 เม.ย. 2565 เกิดอุบัติเหตุรวม 1,720 ครั้ง บาดเจ็บ 1,696 คน เสียชีวิต 237 ราย โดย "เชียงใหม่" เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด 62 ครั้ง และมีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด 60 คน ขณะที่ กทม.มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด 11 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตลดลงเหลือ 10 จังหวัด ได้แก่ นครพนม บึงกาฬ ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดปิดท้ายเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับ กทม. ทำให้ปริมาณการจราจรหนาแน่นในเส้นทางสายหลัก – สายรองที่เชื่อมต่อจากภูมิภาคต่างๆ เข้าสู่ กทม. ทั้งนี ศปถ.กำชับจังหวัดให้ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการเดินทาง พิจารณาเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว เฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน ดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันขับรถเร็วเกินกำหนด เพิ่มความถี่เรียกตรวจความพร้อมผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับใน อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยประชาชนที่ยังคงตกค้างบริเวณสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ท่าเทียบเรือ และสถานีรถไฟให้เดินทางกลับอย่างปลอดภัย
"วันนี้หลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางยังคงมีฝนตกและพายุลมแรง จึงขอฝากเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ หรือไม่ฝืนขับรถฝ่าสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักและวาตภัย โดยให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย" นายบุญธรรมกล่าว