ยอดติดเชื้อโควิดยังคงที่ 2.5 หมื่นราย แต่ยอดดับนิวไฮทะลุร้อยวันแรกของระลอกโอมิครอน จำนวน 108 ราย พบเด็ก 5 ขวบ สูงวัย 105 ปี เสียชีวิต ภาคอีสานยังดับสูงสุด 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุดพบติดเชื้อเกิน 600 รายทั้งหมด ติดเกิน 500 รายมีอีก 5 จังหวัด ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอีก 2.9 แสนโดส สะสม 131 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 65 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 25,139 ราย สะสม 3,883,485 ราย หายป่วย 25,509 ราย สะสม 3,606,429 ราย เสียชีวิต 108 ราย สะสม 26,083 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 250,973 ราย อยู่ใน รพ. 63,488 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 187,485 ราย มีอาการหนัก 1,993 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 848 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 29.5%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 108 ราย มาจาก 40 จังหวัด โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้เสียชีวิตมากสุด 31 ราย ภาคกลางและตะวันออก 26 ราย กทม. 17 ราย ปริมณฑล 13 ราย ภาคใต้ 11 ราย และภาคเหนือ 10 ราย เป็นชาย 61 ราย หญิง 47 ราย อายุ 5-105 ปี เฉลี่ย 76 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 99%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 3,108 ราย 2. ชลบุรี 1,290 ราย 3. ขอนแก่น 851 ราย 4. นครศรีธรรมราช 827 ราย 5. สมุทรปราการ 795 ราย 6. สมุทรสาคร 656 ราย 7. ราชบุรี 654 ราย 8. นนทบุรี 645 ราย 9. นครปฐม 628 ราย และ 10. ร้อยเอ็ด 607 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อเกิน 500 ราย มี 5 จังหวัด คือ ระยอง 547 ราย, สงขลา 542 ราย, สุพรรณบุรี 527 ราย, ฉะเชิงเทรา 507 ราย และ บุรีรัมย์ 504 ราย ส่วนติดเชื้อเกิน 400 ราย มี 6 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ 480 ราย, นครราชสีมา 465 ราย, กาญจนบุรี 451 ราย, นครสวรรค์ 450 ราย, หนองคาย 412 ราย และลำปาง 408 ราย
ขณะที่จังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 21 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ 99 ราย, ตรัง 96 ราย, ตราด 91 ราย, พังงา 90 ราย, สตูล 89 ราย, ชุมพร 88 ราย, ยโสธร 85 ราย, อำนาจเจริญ 84 ราย, มุกดาหาร 83 ราย, ตาก 79 ราย, หนองบัวลำภู 79 ราย, ปัตตานี 60 ราย, อุตรดิตถ์ 58 ราย, ชัยนาท 53 ราย, สมุทรสงคราม 53 ราย, ยะลา 48 ราย, พะเยา 47 ราย, พิจิตร 40 ราย, แม่ฮ่องสอน 34 ราย, เชียงราย 28 ราย และ นราธิวาส 26 ราย ส่วนจังหวัดติดเชื้อเป็น 0 คือ ลำพูน
สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 80 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 67 ราย ใน 20 ประเทศ โดยมาจากออสเตรเลียมากที่สุด 9 ราย เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ ประเทศละ 7 ราย เมียนมา สิงคโปร์ ประเทศละ 5 ราย สวิตเซอร์แลนด์ เกาหลีใต้ ประเทศละ 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 33 ราย แซนด์บ็อกซ์ 6 ราย กักตัว 23 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 5 ราย จากเมียนมา สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-9 เม.ย. 2565 มีผู้เดินทาง 123,278 คน รายงานติดเชื้อ 513 คน คิดเป็น 0.42% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 115,430 คน ติดเชื้อ 411 คน คิดเป็น 0.36% แซนด์บ็อกซ์ 6,602 คน ติดเชื้อ 61 คน คิดเป็น 0.92% และกักตัว 1,246 คน ติดเชื้อ 41 คน คิดเป็น 3.29%
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 วันที่ 9 เม.ย. ฉีดได้ 291,290 โดส สะสมแล้ว 131,154,980 โดส เป็นเข็มแรก 55,910,538 ราย คิดเป็น 80.4% ของประชากร เข็มสอง 50,577,061 ราย คิดเป็น 72.7% ของประชากร และเข็มสาม 24,667,381 ราย คิดเป็น 35.5% ของประชากร