xs
xsm
sm
md
lg

“เจอ แจก จบ” ดูแลโควิดแล้วกว่า 7 แสนราย ติดตามอาการหลัง 48 ชม.ทุกราย ส่งต่อเมื่อแย่ลงได้ทั้งหมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปลัด สธ. เผยผู้ติดเชื้อโควิดยังอยู่ในระดับสูงคงตัว ส่วน “เจอ แจก จบ” ดูแลผู้ป่วยแล้วกว่า 7 แสนราย ทุกรายได้รับการประเมินอาการหลังครบ 48 ชั่วโมง อาการแย่ลงได้รับส่งต่อทัเงหมด ภาพรวม 92% พึงพอใจ

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับสูงคงตัว ทำให้ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรืออาการน้อย สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน (OPSI) หรือ “เจอ แจก จบ” ได้ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1-24 มี.ค. 2565 ทั่วประเทศมีสถานพยาบาลเข้าร่วม 901 แห่ง ให้บริการได้วันละ 1 แสนราย มีผู้ป่วยเข้ารับบริการสะสม 656,856 ราย เฉลี่ยวันละ 27,369 ราย เฉพาะพื้นที่ กทม. ให้บริการผู้ป่วยได้วันละ 1 หมื่นราย มีผู้ป่วยเข้ารับบริการสะสม 65,305 ราย เฉลี่ยวันละ 2,839 ราย

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแบบ “เจอ แจก จบ” มีการประเมินอาการแรกรับและติดตามอาการหลังครบ 48 ชั่วโมงทุกราย ไม่พบกรณีอาการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นแล้วไม่ได้รับการดูแล เนื่องจากมีช่องทางติดต่อกลับและระบบส่งต่อ ส่วนผู้ป่วยที่ไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ ยังมีระบบ Community Isolation รองรับ ซึ่งจากการประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วยที่รับบริการ พบว่า 92% พึงพอใจระดับมากถึงมากที่สุด ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์มีความพึงพอใจสูงมาก เนื่องจากช่วยลดภาระงานและการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และได้ผลในการรักษาไม่ต่างจากระบบ Home Isolation ดังนั้น สธ.จะขยายบริการในโรงพยาบาลต่างๆ ให้มากขึ้นทั่วประเทศ

“สำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ขอให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและผู้ที่ครบกำหนดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากหากติดเชื้อจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ และขอให้เข้มมาตรการ VUCA โดยเฉพาะจังหวัดที่จะจัดงานเทศกาลสงกรานต์ มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หรือมีผู้ร่วมกิจกรรมเดินทางมาจากต่างจังหวัดจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระบาดเป็นวงกว้างหรือแพร่โรคไปยังกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงวัย เด็กเล็ก และกลุ่มเปราะบาง” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น