วันนี้(10 มี.ค.)น.ส.ลลิศา ไตรรัตนจรัสพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตหลักสี่ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบมาตรการรองรับการเปลี่ยนผ่านโรคโควิด 19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น และปรับเกณฑ์ค่าใช้จ่ายผู้ป่วยฉุกเฉินในกลุ่มสีเขียวที่ให้เข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิ และเน้นการดูแลแบบ OPD หรือรับยากลับไปทานเองที่บ้านนั้น
น.ส.ลลิศา มองว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ แม้รัฐบาลจะอ้างว่าส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แต่ในความเป็นจริงนั้นมีปัญหาหน้างานเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการระบาดภายในชุมชน และครอบครัวที่ไม่สามารถแยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการหรือทำ Home Isolation ได้ อย่างเช่น ในพื้นที่เขตหลักสี่ ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ติดอันดับ 1-10 ของกรุงเทพมหานคร การติดเชื้อส่วนใหญเกิดในชุมชนที่มีความใกล้ชิด และอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ เมื่อมีการติดเชื้อมาจากภายนอก ผู้ป่วยไม่สามารถติดต่อขอเตียงเพื่อเข้ารับการรักษาใน Hospitel ได้ และที่อยู่อาศัยก็ไม่เอื้ออำนวยให้ทำ Home Isolation ทำให้ต้องจำใจอยู่ร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆภายในบ้าน และใช้มาตรการป้องกันเท่าที่จะทำได้เพียงเท่านั้น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทั้งในกลุ่มที่ไม่มีอาการ กลุ่มที่มีอาการเล็กน้อย และกลุ่มที่มีอาการรุนแรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง ซึ่งติดเชื้อมาจากกลุ่มสีเขียว นับว่าเป็นสิ่งที่น่าวิตกอย่างยิ่ง ประกอบกับความล้มเหลวของภาครัฐในการบริหารจัดการเตียงของโรงพยาบาล และ Hospitel เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วย และช่องการการสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลรับผิดชอบเข้าถึงได้ยาก ส่งผลอย่างมากต่อการเข้าถึงยารักษาโรคและกระบวนการรักษา
นอกจากนี้ การปรับเกณฑ์การเข้ารับการรักษาของกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว หรือกลุ่มที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย โดยให้กลับไปรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธินั้นก็มีจุดที่น่ากังวล โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่สถานพยาบาลตามสิทธิ กับที่อยู่ปัจจุบันห่างไกลกัน อาจประสบความยากลำบากในการเดินทาง หรือเกิดการแพร่เชื้อระหว่างไปโรงพยาบาลตามสิทธินั้นๆ
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตหลักสี่ พรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือ ภาครัฐต้องเร่งประชาสัมพันธ์ ชี้แจง และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะมาตรการหรือแนวทางการรักษาที่ออกมาใหม่ เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสนเหมือนที่ผ่านมาได้
“ขนาดที่ผ่านมา ตอนโรคโควิด 19 ยังไม่เป็นโรคประจำถิ่น การเข้าถึงระบบรักษายังยุ่งยากและตกหล่นมากมาย ผู้ป่วยบางรายโทรหาเบอร์ 1330 เพื่อขอยาและทำ Home Isolation ยังติดต่อไม่ได้ จนหายป่วยเองก็มี จึงไม่แน่ใจว่าหากรัฐประกาศให้โควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่น ประชาชนโดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจะถูกทิ้งขว้างหรือตกหล่นมากกว่านี้หรือไม่ จึงอยากให้เอาใจใส่ในส่วนนี้ด้วย เพราะมีคนหลายในเขตหลักสี่ เริ่มบ่นแล้วว่า รัฐกำลังมีนโยบาย เจอ-ป่วย-หายเอง หรือไม่” น.ส.ลลิศา กล่าว