xs
xsm
sm
md
lg

3 ขวบดับจากโควิด กทม.ยังติดเชื้อสูงกว่า 3 พันราย ยอดฉีดวัคซีนไม่กระเตื้อง ได้วันละแสนโดส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประเทศไทยยังติดโควิดรายใหม่เกิน 2 หมื่นรายต่อเนื่อง หายป่วย 2.48 หมื่นราย เสียชีวิตยังสูง 83 ราย พบอายุ 3 ขวบดับด้วย กทม.ยังสูง 3.1 พันราย ดับ 11 ราย 54 จังหวัดยังติดเชื้อสูงเกินร้อยราย เร่งฉีดวัคซีนยังไม่กระเตื้อง ฉีดเพิ่มได้วันละ 1 แสนโดส

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 46 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 21,382 ราย สะสม 3,398,792 ราย หายป่วย 24,824 ราย สะสม 3,137,561 ราย เสียชีวิต 83 ราย สะสม 24,417 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 236,814 ราย อยู่ใน รพ. 62,278 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 174,536 ราย มีอาการหนัก 1,484 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 532 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 25.7%

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 83 ราย มาจาก 43 จังหวัด ได้แก่ กทม. 11 ราย, อุบลราชธานี 5 ราย, มหาสารคาม สุราษฎร์ธานี พัทลุง จังหวัดละ 4 ราย, พิษณุโลก ภูเก็ต ปัตตานี ระยอง ลพบุรี จังหวัดละ 3 ราย, ปทุมธานี บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ นครพนม เพชรบูรณ์ ชลบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ นครปฐม สมุทรปราการ อุดรธานี นครราชสีมา หนองบัวลำภู สกลนคร มุกดาหาร ตาก ลำปาง เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ ชุมพร กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง สงขลา ยะลา นราธิวาส สมุทรสงคราม อ่างทอง ชัยนาท จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 51 ราย หญิง 32 ราย อายุ 3-95 ปี เฉลี่ย 72 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 98%

ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 3,109 ราย 2. ชลบุรี 1,420 ราย 3. นครศรีธรรมราช 1,136 ราย 4. สมุทรปราการ 874 ราย 5. สมุทรสาคร 613 ราย 6. นครราชสีมา 606 ราย 7. ร้อยเอ็ด 597 ราย 8. ระยอง 533 ราย 9. นครปฐม 503 ราย และ 10. บุรีรัมย์ 498 ราย

สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 44 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา 479 ราย, นนทบุรี 448 ราย, สงขลา 446 ราย, เชียงใหม่ 435 ราย, ขอนแก่น 400 ราย, สมุทรสงคราม 351 ราย, ปทุมธานี 316 ราย, ราชบุรี 310 ราย, พัทลุง 308 ราย, สุพรรณบุรี 299 ราย, ภูเก็ต 292 ราย, อุดรธานี 272 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 266 ราย, สุรินทร์ 256 ราย, สตูล 254 ราย, นครสวรรค์ 250 ราย, เพชรบุรี 233 ราย, พระนครศรีอยุธยา 226 ราย, กาฬสินธุ์ 224 ราย, สุราษฎร์ธานี 221 ราย, อุบลราชธานี 217 ราย, ระนอง 210 ราย, จันทบุรี 203 ราย, ศรีสะเกษ 203 ราย, ปราจีนบุรี 195 ราย, กาญจนบุรี 191 ราย, สระแก้ว 190 ราย, หนองคาย 171 ราย, กระบี่ 164 ราย, นราธิวาส 161 ราย, ตรัง 159 ราย, ชุมพร 158 ราย, สุโขทัย 158 ราย, ยโสธร 155 ราย, สกลนคร 153 ราย, หนองบัวลำภู 152 ราย, พิษณุโลก 145 ราย, ตาก 137 ราย, สระบุรี 126 ราย, เลย 124 ราย, มหาสารคาม 121 ราย, ปัตตานี 119 ราย, ยะลา 114 ราย และ อ่างทอง 113 ราย ทั้งนี้ มีจังหวัดติดเชื้อหลักหน่วยมีจังหวัดเดียว คือ ลำพูน 5 ราย

ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 46 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 38 ราย ใน 20 ประเทศ โดยมาจากอังกฤษมากที่สุด 11 ราย ตามด้วยกัมพูชา 8 ราย, สิงคโปร์ เยอรมนี ประเทศละ 6 ราย, มาเลเซีย 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 31 ราย แซนด์บ็อกซ์ 12 ราย ระบบกักตัว 3 ราย และลักลอบเข้ามา 12 ราย จากกัมพูชา 7 ราย เมียนมา 3 ราย และมาเลเซีย 2 ราย สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-21 มี.ค. 2565 จำนวน 180,285 ราย รายงานติดเชื้อ 1,201 ราย คิดเป็น 0.67% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 160,086 ราย ติดเชื้อ 799 ราย คิดเป็น 0.19% แซนด์บ็อกซ์ 17,210 ราย ติดเชื้อ 339 ราย คิดเป็น 1.97% และกักตัว 2,989 ราย ติดเชื้อ 61 ราย คิดเป็น 2.11%

การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 21 มี.ค. ฉีดได้ 105,249 โดส สะสมรวม 127,488,916 โดส เป็นเข็มแรก 54,912,758 ราย คิดเป็น 78.9% ของประชากร เข็มสอง 50,127,010 ราย คิดเป็น 72.1% ของประชากร และเข็มสาม 22,449,148 ราย คิดเป็น 32.2% ของประชากร


กำลังโหลดความคิดเห็น