ศบค.ยันไม่มีล็อกดาวน์ หลังผู้ติดเชื้อแนวโน้มเพิ่มขึ้น รอประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พุธนี้ เคาะมาตรการ ย้ำ ดูรอบด้าน ทั้งผู้ติดเชื้อ เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว คลัสเตอร์ร้านอาหารขายสุรายังติดเชื้อสูง สั่งจังหวัดเข้มตลาดติดซ้ำ เตียงรองรับยังเพียงพอ สั่งทุกจังหวัดเพิ่ม รพ.สนาม
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิดประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยมีตัวเลขขยับสูงขึ้น ซึ่งวันที่ 23 ก.พ.จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่จะมีการตัดสินใจอย่างไร ซึ่งเราดูหลายปัจจัย ทั้งการติดเชื้อ ป่วยหนัก เสียชีวิต ศักยภาพเตียง การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งมีนักวิจัยนักวิจารณ์ออกมาพูดว่า ต่างประเทศมีการผ่อนคลายไปแล้ว ทำไมเรายังต้องเข้มงวดอยู่ ศบค.เรายังต้องพิจารณาอย่างเข้มงวด จะไปตามต่างประเทศอย่างเดียวไม่ได้ สำหรับวันนี้ประเทศไทยติดเชื้อ 18,883 ราย ถ้าบวก ATK รายงาน 15,010 ราย ซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ สามารถเข้าแยกกักที่บ้านได้เลย เสียชีวิต 32 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 202 ราย
“เราไม่มีการปิดบังตัวเลขจริง หลายครั้งที่หลายเพจตั้งข้อสังเกต ตัวเลข กทม. ชลบุรี น่าน ไม่เท่ากัน ต้องเน้นย้ำการรายงานสาธารณสุขใช้เวลาเคลียร์ข้อมูลจากทุกสถานพยาบาล ใช้เวลา 24 ชั่วโมง การรายงานของ ศบค.จะยึดเอาข้อ สธ.ที่ตัดทุกเที่ยงคืน แต่ย้ำว่าเราไม่มีการปิดบัง หลายครั้งที่สงสัยเราพยายามชี้แจง” พญ.อภิสมัย กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรเสียชีวิต 32 ราย พบว่า 19 รายไม่ได้รับวัคซีนเลย คิดเป็น 60% 8 รายรับครบ 2 เข็มนานเกิน 4 เดือน คิดเป็น 25% และมี 5 รายรับวัคซีน 2 เข็ม ในช่วงประมาณ 4 เดือน ยังไม่ได้เข็ม 3 ฝาก ให้ประชาชนที่รับวัคซีนสองเข็มแล้วไปรับเข็มกระตุ้นเข็มสาม
ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัด ได้แก่ 1. กทม. 2,753 ราย 2. นครศรีธรรมราช 960 ราย 3. สมุทรปราการ 926 ราย 4. ชลบุรี 884 ราย 5. นนทบุรี 852 ราย 6. ภูเก็ต 628 ราย 7. นครราชสีมา 563 ราย 8. ระยอง 475 ราย 9. นครปฐม 429 ราย และ 10. บุรีรัมย์ และ ปทุมธานี จังหวัดละ 421 ราย ถ้าดูทิศทางกราฟการรายงานติดเชื้อส่วนใหญ่เป้นจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัด และ 18 จังหวัดที่มีพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
กทม.ปลายสัปดาห์ที่แล้วเหมือนจะลง แต่ก็จะยังขึ้นไปอีก ยังขึ้นๆ ลงๆ ต้องระมัดระวัง ชลบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการทิศทางยังสูงต่อเนื่อง ส่วนที่รายงานติดเชื้อที่รายงานมากสุด คือ วัยแรงงาน 18-59 ปี รองลงมาคือ อายุต่ำกว่า 18 ปี และอายุ 60 ปีขึ้นน้อยสุด แต่ทั้งสามกลุ่มยังมีทิศทางกราฟเชิดหัวขึ้น ไม่ว่ากลุ่มไหนวัยแรงงาน เด็ก สูงอายุ มีการติดเชื้อสูงขึ้นทั้งหมด แต่เทียบกับ ส.ค. 64 ยังไม่เทียบเท่า ตอนนี้ระบบการดูแลรักษาของ สธ.ให้มีการแยกกักที่บ้านและชุมชน จะทำให้เทียบกับปีที่แล้วไม่ได้เพราะเราเข้าใจโรคมากขึ้น ระบบยังเพียงพอรองรับ ประชาชนเข้าใจมากขึ้น อาจเป็นปัจจัยนำเข้าทำให้เกิดการพิจารณาใน ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 23 ก.พ.นี้
คลัสเตอร์ที่รายงานสูงสุด คือ ร้านอาหารที่เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์, โรงเรียนพบหลายจังหวัด ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ระดับมหาวิทยาลัย มัธยม โรงเรียนกีฬา, ตลาด รายงาน 6 จังหวัด มีทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ และมีการติดเชื้อซ้ำ ย้ำกลไกฝ่ายปกครองให้กำกับติดตาม ตลาดที่ติดเชื้อซ้ำซาก ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านติดตามกำกับทุกระดับ เพราะคลัสเตอร์พื้นที่เดิมๆ บางจังหวัดติดเชื้อซ้ำปิดแล้วปิดอีก, พิธีกรรมก็ยังพบหลายจังหวัด ซึ่งไม่ได้เกิดจากพิธีกรรม แต่หลังพิธีกรรมมีการจัดเลี้ยง รับประทานอาหาร ล้อมวงเปิดหน้ากาก และพบการเล่นพนัน วงเหล้า ไพ่ พนันชนไก่ เน้นย้ำฝ่ายปกครองช่วยสาธารณสุขในพื้นที่ติดตามกำกับอย่างเข้มงวด ที่ ศบค.ห่วง คือ บุคลากรทางการแพทย์ มีรายงานทั้ง รามาฯ ศิริราช รพ.ปราสาท จ.สุรินทร์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพ.ศรีนครินทร์ รพ.เบตง เมื่อบุคลากรติดเชื้อต้องกักตัวขาดบุคลากรดูแลประชาชนก็ยังเป็นห่วง
“ช่วงนี้หากงดเว้นกิจกรรมสังสรรค์รวมกลุ่มได้ ขอให้ชะลอไปก่อน เพราะตัวเลขสูงสุด เอาที่จำเป็นกิจกรรมที่ต้องจัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อปากท้องความเป็น หากต้องจัดขอให้ผู้จัดที่มีการรวมกลุ่มคนให้มีการตรวจ ATK เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก เว้นการรับประทานอาหารสังสรรค์ร่วมกัน เราต้องการให้ระบบการดูแลรักษาอย่างเพียงพอ ซึ่งกรมการแพทย์รายงานว่า เตียง รพ.ทั่วประเทศ 20 ก.พ. อัตราครองเตียงระดับ 2 อยู่ที่ 19% ระดับ 3 อยู่ที่ 16.5% ยังเพียงพอรับการเจ็บป่วยหนักมีโรคประจำตัว ผอ.ศบค.สั่งทุกจังหวัดเตรียม รพ.สนามรองรับด้วยหากมีความจำเป็น” พญ.อภิสมัยกล่าว
ถามว่า จะมีการล็อกดาวน์หรือยกเลิก Test&Go หรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ล็อกดาวน์หรือไม่ ทิศทาง ศบค.ชุดเล็กไม่มีการพูดถึงความเป็นไปได้ในการล็อกดาวน์ ศบค.ชุดใหญ่ไม่ได้ดูแค่ยอดผู้ติดเชื้อ ป่วยหนัก เสียชีวิต เท่านั้น พิจาณรารอบด้าน เศรษบกิจการท่องเที่ยว ควาเมป็นอยู่ประชาชนด้วย บางครั้งประชาชนไปบริโภคข้อมูลจากนักวิชาการ อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เกิดตกใจจะล็อกดาวน์หรือไม่ วันนี้ยังไม่มีทิศทางประกาศ ขอความร่วมมือนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญระบุเวลาให้ความเห็น ว่า เป็นความเห็นส่วนตัว ประชาชนและผู้ประกอบการมีความกังวล Test&Go มีการคาดการณ์ว่า จะระงับเดินทาง ซึ่งทุกวันนี้เดินทางเข้ามาทุกระบบ 137,090 ราย ติดเชื้อ 3,495 ราย คิดเป็น 2.55% ระบบยังรองรับได้ การติดเชื้อมีทั้งกลุ่ม Test&Go แซนด์บ็อกซ์และกักตัว ตรวจเจอวันแรกที่มาถึงนั้น Test&Go เจอ 46% แซนด์บ็อกซ์ ตรวจพบ 44% ตรวจวันที่ 4-7 Test&Go พบประมาณ 44% ของผู้ติดเชื้อ จึงไม่ได้ปิดกั้นการเดินทาง แต่ต้องมีมาตรการ ขอให้รอการพิจารณาวันพุธนี้ ว่า ถ้าไม่มีการล็อกดาวน์ มีการเดินทางเข้าราชอาณาจักร จะมีมาตรการอะไรอย่างไร