แนะมอบ “ยาหอม-ชาเบญจเกสร” สื่อรักวาเลนไทน์แบบไทยๆ ตัวช่วยบำรุงหัวใจ

กรมแพทย์แผนไทยฯ แนะมอบ“ยาไทย” เป็นสื่อรักวาเลนไทน์ ทั้งยาหอม ชาเบญจเกสร ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันและบำรุงหัวใจ

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า วันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. มักมีการมอบของขวัญแสดงความรักให้แก่กัน เช่น ดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์โควิด หากต้องการสื่อความรักแบบไทย ดูแลหัวใจคนรัก ขอแนะนำการแสดงออกและการสื่อความรักด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในช่วงวันวาเลนไทน์ โดยเน้นการดูแลด้านร่างกายและจิตใจ โดยด้านร่างกายดูแลเรื่องอาหารและผลิตภัณฑ์ยาไทย บำรุงหัวใจให้แก่กัน ได้แก่ ปรุงอาหารสุขภาพบำรุงหัวใจแก่คนรัก เน้นผักสด ผลไม้ สมุนไพร เช่น กระเทียมที่ช่วยลดไขมัน ขิง พริกที่มีรสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด น้ำใบเตยบำรุงหัวใจทำให้สดชื่น นำสมุนไพรเหล่านี้เตรียมอาหารสุขภาพให้คนรักไปรับประทานกลางวันที่ทำงาน หรือช่วง Work From Home เป็นการมอบอาหารสื่อรักและห่วงใยแก่คนรักได้อย่างดี หรือมอบยาสมุนไพรให้กับคนรัก ซึ่งผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรมีรูปแบบที่ทันสมัยและใช้ได้อย่างปลอดภัยทุกเพศ ทุกวัย การให้นี้จึงเป็นเสมือนสื่อรักที่ต้องการดูแลบำรุงหัวใจของคนรักได้อย่างดี เช่น

“ยาหอม” ซึ่งเป็นตำรับยาสมุนไพรที่หลายคนอาจเข้าใจในสรรพคุณแก้ลมวิงเวียนศีรษะ แต่ยาหอมยังช่วยบำรุงหัวใจ ปรับการทำงานของธาตุลม ซึ่งมีผลต่อการทำงานของธาตุไฟและธาตุน้ำ ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือด จิตใจ อารมณ์ความรู้สึกดีขึ้น ปัจจุบันยาหอมมีรูปแบบที่ทันสมัย และพกง่ายขึ้น พกยาหอมนอกจากมีสรรพคุณทางยาแล้ว ยังสามารถใช้บอกแทนความห่วงใยในการขอเป็นผู้ดูแลหัวใจของคนที่คุณรักได้อีกด้วย สำหรับข้อห้ามและข้อควรระวังในการใช้ยาหอม คือ ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้ ควรระวังในผู้ที่ใช้ยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือดและละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน วาร์ฟาร์ริน โคลพิโดเกรล และควรระวังการใช้อย่างต่อเนื่องในผู้ป่วยโรคตับและไต เพราะอาจเกิดการสะสมของการบูรจนเกิดความเป็นพิษได้

“ชาเบญจเกสร” เป็นตำรับยาสมุนไพรที่ประกอบด้วยดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี และเกสรบัวหลวง มีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ลมวิงเวียน ตำรับตรีผลา ประกอบด้วย สมอพิเภก สมอไทย และมะขามป้อม จากการศึกษาวิจัยพบว่า ตำรับตรีผลา มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ

นพ.ธิติ กล่าวว่า ส่วนด้านจิตใจ สามารถดูแลหัวใจของคนรักร่วมกันได้อย่างปลอดภัยและอิ่มใจ เช่น ทำสมาธิ สวดมนต์ ทำบุญออนไลน์ ซึ่งเป็นการพัฒนาสุขภาพใจที่ดี ช่วยทำให้เกิดการคิดดี ทำดี ตระหนักรู้ มีสติรู้ ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ระหว่างคู่รัก และช่วยให้ปลอดภัยในสถานการ์การระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย