จิตแพทย์ย้ำเด็กอนุบาลร้องไห้เรื่องปกติ ต้องฝึกพัฒนาการ ควบคุมและแสดงอารมณ์ตามวัย

จิตแพทย์ย้ำการร้องไห้ในเด็กเล็ก 2-3 ขวบเป็นเรื่องปกติ ผู้ใหญ่ต้องช่วยดูแลพัฒนาการ ฝึกทักษะสังคม ควบคุมอารมณ์ เรียนรู้การแสดงทางอารมณ์อย่างเหมาะสม ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และวัย ส่วนการตั้งกติกาเพื่อเลือกเด็กที่วุฒิภาวะทางอารมณ์ดีกว่าอาจทำได้ แต่หากใช้ในกิจกรรมไม่ถูกต้องอาจเกิดผลเสีย

จากกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของโรงเรียนอนุบาลออกประกาศหลักเกณฑ์การทดสอบเด็กเพื่อรับเข้าเรียน โดยจะมีการหัก 3 คะแนนสำหรับเด็กที่ร้องไห้ระหว่างการทดสอบ เนื่องจากอาจรบกวนเด็กคนอื่น ซึ่งล่าสุดได้มีการยกเลิกประกาศดังกล่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ถึงการควบคุมอารมณ์ในเด็ก ว่า สำหรับเด็กเล็กนั้นการร้องไห้ถือเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมชาติ ยิ่งในเด็กเล็ก 2-3 ขวบ การควบคุมอารมณ์ต้องอาศัยพัฒนาการทางสังคมและวุฒิภาวะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องให้ความสำคัญ ทำความเข้าใจ เพื่อดูแลให้เขาเกิดการพัฒนา ฝึกทักษะทางสังคม ซึ่งไม่ใช่เพียงการควบคุมอารมณ์เสียใจ แต่เป็นการแสดงออกทางอารมณ์อื่นๆ ด้วย เช่น ขว้างปาสิ่งของเมื่อเวลาโกรธ หรือร้องไห้เมื่อเวลาเสียใจ หรือเวลากลัว จึงเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่ต้องสนับสนุนให้เด็กเรียนรู้ในการแสดงออกทางอารมณ์ให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งต้องอาศัยเรื่องของวัยเช่นกัน คู่กับประสบการณ์และอื่นๆ เกี่ยวข้อง

พญ.อัมพร กล่าวว่า ส่วนกรณีของโรงเรียน อาจจะต้องดูวัตถุประสงค์ของการตั้งกติกา เช่น หากเป็นการคัดเลือกเด็กเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมอะไรบางอย่างเป็นพิเศษ ซึ่งผู้คัดเลือกอาจจะต้องวางเกณฑ์สำหรับเด็กที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ดีกว่า หรือมีพัฒนาการทางสังคมที่มากกว่า ในส่วนนี้สามารถวางกติกาเพิ่มเติมได้ แต่หากนำไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่ใช่ก็อาจจะผลส่งเสียกับเด็กได้

"แต่เวลาเราประเมินเด็กก็ไม่ใช่ว่าเด็กที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า จะมีแต้มการประเมินมากกว่าเด็กคนอื่น ทั้งนี้ คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองคือ สร้างความสบายให้กับเด็ก ไม่สร้างความวิตกกังวลเพิ่ม โดยให้เด็กอยู่ใกล้คนที่เด็กไว้ใจ การที่เด็กอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็จะเกิดความวิตกกังวลได้" พญ.อัมพร กล่าว