xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เผย “ร้านอาหารกึ่งผับ” ทำติดโควิด-19 หลายคลัสเตอร์ ย้ำจังหวัดต้องเอาผิดตามกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงสาธารณสุข ห่วงหลังปีใหม่อาจพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว ย้ำ กลับมาทำงานให้เฝ้าสังเกตอาการตนเอง 14 วัน เน้นทำงานที่บ้าน และตรวจ ATK ก่อนกลับเข้าทำงานเผย “ร้านอาหารกึ่งผับ” ไม่ทำตามมาตรการ เป็นต้นเหตุหลายคลัสเตอร์ ย้ำ จังหวัดเอาผิดตามกฎหมายเตรียมเสนอเลื่อนระบบ Test &Go ออกไปต่อ ส่วนผับบาร์อีก 1 เดือน ค่อยประเมิน

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ประเทศไทยรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3,091 ราย โดยมาจากต่างประเทศ 124 ราย รักษาหาย 2,688 ราย ผู้เสียชีวิต 12 ราย ยังเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ดังนั้น ขอให้ลูกหลานพาผู้สูงอายุไปรับวัคซีน ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เดินทางเข้าประเทศมีโอกาสนำเชื้อเข้ามามากขึ้น จึงได้ชะลอการเข้าประเทศในระบบ Test & Go ซึ่งพบการติดเชื้อประมาณ 2% เหลือระบบภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และระบบกักตัว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ลงทะเบียนระบบ Test & Go ไว้และยังไม่ได้เดินทางมา ยังไม่อยากให้เดินทางเข้ามาในขณะนี้ เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงการนำเชื้อเข้าประเทศ จึงจะเสนอเลื่อนระบบ Test & Go ออกไปอีก ส่วนระบบแซนด์บ็อกซ์ จังหวัดที่มีความพร้อมสามารถขออนุญาตเปิดแซนด์บ็อกซ์เพิ่มเติมได้

“แนวโน้มผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลง แต่มีสัญญาณผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลังปีใหม่ เนื่องจากมีกิจกรรมเฉลิมฉลอง การเดินทางและท่องเที่ยว โดยเฉพาะจังหวัดที่แหล่งท่องเที่ยวหรือเป็นเมืองใหญ่ที่คนต้องกลับเข้ามาทำงาน ดังนั้น หลังกลับจากปีใหม่ให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเอง 14 วัน เน้นทำงานที่บ้าน หากต้องกลับเข้าทำงานให้ตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ และหากพบผลบวกให้ติดต่อสายด่วน 1330 เพื่อลงทะเบียนและเข้าระบบดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) หากพบการระบาดในโรงงาน ให้แยกมารักษา ไม่ควรปิดโรงงาน เพราะจะเกิดการกระจายตัวกลับบ้านทำให้เกิดการแพร่เชื้อมากขึ้น ซึ่งหากเร่งรัดการฉีดวัคซีน และยังป้องกันตนเองสูงสุดใช้มาตรการ COVID Free Setting จะช่วยให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไม่สูงขึ้นเหมือนที่คาดการณ์ได้” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ส่วนแนวโน้มการติดเชื้อในประเทศระยะหลัง เกิดจากกิจกรรมรวมตัวโดยไม่ใส่หน้ากาก อยู่ในห้องปิดอับ โดยเฉพาะร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งผับบาร์ยังไม่มีนโยบายให้เปิด หลายร้านจึงปรับมาขออนุญาตเปิดเป็นร้านอาหาร แต่ยังปฏิบัติเหมือนเป็นผับบาร์ตามเดิม ไม่ทำตามมาตรการ COVID Free Setting เช่น กรณี จ.อุบลราชธานี พบมีการปิดม่าน อากาศไม่ถ่ายเท โต๊ะเก้าอี้หนาแน่น แสดงดนตรี ดื่มสุรา ส่งเสริมการขาย ไม่สวมหน้ากาก พูดคุยเสียงดัง และร้องเพลง ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีความผิดทั้ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ย้ำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเข้มงวดสถานที่เสี่ยงเหล่านี้ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการให้ดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด ส่วนประชาชนขอให้งดไปใช้บริการ เพราะอาจนำเชื้อกลับไปติดผู้สูงอายุที่บ้านและมีความเสี่ยงอาการหนักและเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ อีกประมาณ 1 เดือน จึงจะพิจารณาเรื่องการเปิดผับบาร์อีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น