ศ.นพ.ยง ถอดบทเรียนโควิด-19 เข้าสู่ไทย การป้องกันที่สำคัญจะอยู่ที่การเดินมา มากกว่าที่บินมา ชี้ ตามกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ สายพันธุ์โอไมครอน มีแนวโน้มยึดพื้นที่สายพันธุ์เดลตา และอาจทำให้ระบาดทั่วโลกได้ แนะ 3 ข้อเตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อนล่วงหน้า
วันนี้ (3 ธ.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yong Poovorawan หัวข้อ โควิด-19 โอไมครอน การเตรียมพร้อมรับมือ โดยระบุว่า
โอไมครอน ถ้าการระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา โอไมครอน จะเข้ามาแทนที่เดลตาที่ระบาดไปทั่วโลก
เดิมสายพันธุ์ที่ระบาดจากอู่ฮั่น เป็นสายพันธุ์ S และ L ประเทศไทยระบาดรอบแรก เป็นสายพันธุ์ S
สายพันธุ์ L มีลูกมากกว่า แพร่กระจายได้เร็ว ไประบาดหนักที่ยุโรป ทำให้สายพันธุ์ S หายไป
ต่อมาสายพันธุ์ G แพร่ระบาดได้เร็วกว่า จึงเข้ามาแทนที่สายพันธุ์ L
หลังจากนั้น สายพันธุ์อังกฤษ หรือ อัลฟา ระบาดได้เร็วมาก ก็เข้ามาเบียดสายพันธุ์ G ดังเห็นได้จากสายพันธุ์ G ระบาดในประเทศไทยระบาดที่สมุทรสาคร ในรอบ 2 ต่อมาสายพันธุ์อัลฟา หรือ อังกฤษเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านอีก ก็ระบาดมาก และแทนที่สายพันธุ์ G
สายพันธุ์อัลฟา ระบาดสู้สายพันธุ์เดลตาไม่ได้ เดลตาเริ่มจากอินเดีย เข้ามาประเทศไทยโดยคนงานก่อสร้าง และก็ระบาดไปทั่วประเทศไทย
ขณะนี้สายพันธุ์เดลตาระบาดทั่วโลก เพราะแพร่กระจายได้ง่าย มีการระบาดเป็นระยะเวลายาวนานกว่าสายพันธุ์อื่น
สายพันธุ์โอไมครอน เริ่มจากแอฟริกาตอนใต้ มีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดได้เร็ว ก็อาจจะมายึดพื้นที่สายพันธุ์เดลตาได้ โดยเฉพาะอาจทำให้ระบาดทั่วโลกได้ ตามกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์
โดยทั่วไปการแพร่กระจายสายพันธุ์ต่างๆ ในอดีต มาสู่ประเทศไทย สามารถมาได้โดย บินมา เดินมา หรือว่ายน้ำ มา
บทเรียนในอดีต สายพันธุ์ต่างๆ ที่บินมา ก็จะถูกกักกันไว้ได้หมด สายพันธุ์ที่เข้าสู่ประเทศไทยแต่ละครั้งมักจะ “เดิน” มา เพราะเรามีพรมแดนธรรมชาติอันยาวไกล การป้องกันที่สำคัญจะอยู่ที่การเดินมา มากกว่าที่บินมา
ถ้ามีการแพร่กระจายของสายพันธุ์ โอไมครอน ได้เร็วก็จะมีโอกาสที่แพร่กระจายไปทั่วโลก และในที่สุดประเทศไทยก็จะหนีไม่พ้นอย่างในอดีต เพียงแต่ยืดเวลาให้ช้าที่สุด เพื่อความเตรียมพร้อม หรือมีองค์ความรู้เกิดขึ้น พร้อมที่จะดูแล รักษาป้องกัน
การเตรียมพร้อมรับมือสำหรับ โอไมครอน ไว้ก่อนล่วงหน้าสามารถทำได้โดย
1. การให้วัคซีน ในปัจจุบันต้องครอบคลุมให้ได้สูงสุด หรือเกือบทั้งหมดของประชากรที่ควรจะได้รับวัคซีน
วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบัน ถึงแม้ประสิทธิภาพ ต่อโอไมครอนจะลดลงบ้าง แต่ก็สามารถป้องกันความรุนแรง การเข้านอนโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้ (จากข้อมูลของแอฟริกาใต้ ที่มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล 90% ไม่ได้ฉีดวัคซีน) วัคซีนในประเทศไทยขณะนี้มีเป็นจำนวนมากเพียงพอ ที่จะให้ได้กับคนทุกคน และเตรียมพร้อมที่จะกระตุ้นในเข็มที่ 3
2. การวินิจฉัยสายพันธุ์โอไมครอน ให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อควบคุมการระบาดของโรค ถ้าโอมิครอน หลุดรอดเข้ามา ก็ต้องวินิจฉัยให้ได้อย่างรวดเร็ว และมีทีมที่พร้อมจะเข้าไปควบคุมดูแล ไม่ให้มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น
3. การป้องกัน การแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ด้วยมาตรฐานวิถีชีวิตใหม่ ยังมีความจำเป็นที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด ด้วยการล้างมือ ดูแลสุขอนามัย ใส่หน้ากากอนามัย และกำหนดระยะห่าง เพื่อให้มีจำนวนผู้ป่วยให้น้อยที่สุด
การเตรียมพร้อม ต้องให้ทุกคนเข้าใจ ใช้ความรู้มากกว่าความเชื่อ สร้างความรู้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีความโปร่งใส และทุกคนจะต้องเคร่งครัดรักษาระเบียบวินัย จะช่วยลดการระบาดของโรคได้อย่างแน่นอน