วันนี้ (16 กันยายน 2564 ) นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า ยท. ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ยื่นข้อเสนอต่อ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้เร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 13-18 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนและนักศึกษา ทั้งในระบบและกลุ่มที่เรียนของศูนย์การเรียน ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมีศูนย์การเรียนกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ เยาวชนกลุ่มนี้มีสถานะเป็นทั้งผู้เรียนและแรงงานประกอบอาชีพ จึงมีความเสี่ยงได้รับเชื้อจากการทำงานนอกบ้าน ทั้งนี้ เยาวชนบางส่วนยังมีพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น การรวมกลุ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ซึ่งอาจเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสแพร่ระบาดในสถานศึกษาและชุมชนได้
ด้าน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งผลักดันเพื่อให้เยาวชนในฐานะนักเรียน นักศึกษา ได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างถ้วนหน้าอย่างเร็วที่สุด ซึ่งการจัดสรรวัคซีนถ้วนหน้าถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมถึงเป็นไปตามแนวทางที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่มีนักเรียน นักศึกษา ในกำกับของตนเอง ยังคงต้องปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และที่สำคัญที่สุดคือ การลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้จะส่งผลทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเป็นไปอย่างยากลำบาก และก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย โดยข้อมูลจากมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และสสส. พบว่าการสูบบุหรี่จะทำให้ภูมิต้านทานของร่างกาย ปอด อ่อนแอกว่าปกติ ซึ่งเด็กและเยาวชนจะเป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศชาติอีกด้วย