xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เปิดสูตรฉีดวัคซีน เผยใช้สูตรไขว้เป็นหลักกับคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป เด็ก 12 ปีขึ้นไป-คนท้อง รับไฟเซอร์ 2 เข็ม ย้ำปลอดภัยชัวร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉินกรมควบคุมโรค ยืนยันฉีดซิโนแวค 2 เข็ม บูสแอสตร้าฯ เข็ม 3 ภูมิต้านเดลตา 10 เท่า ประชาชนได้กระตุ้นปี 65 พร้อมเผยสูตรการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปใช้สูตรไขว้เป็นสูตรหลัก ส่วนเด็ก 12-18 ปี ที่มี 7 โรคเรื้อรัง รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ใช้สูตรไฟเซอร์ 2 เข็ม ย้ำวัคซีนปลอดภัย ขอทุกคนอย่ากังวล

วันนี้ (25 ส.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า กราฟแสดงผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 7 วันย้อนหลัง จะเห็นความชัดเจนในภาพรวมเพื่อการตีความได้ง่าย ข้อมูลช่วงวันที่ 1 เม.ย.- 23 ส.ค. 64 พบว่า ผู้ป่วยรายใหม่ของไทย เมื่อเทียบกับเวียดนามที่มีความพยายามในการล็อกดาวน์อย่างมาก จำนวนป่วยต่อวันของไทยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นราย ซึ่งต่างจากเวียดนามที่มีเพียงหลักหมื่นราย แต่ความแตกต่างเรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันของเวียดนามสูงกว่าไทย เฉลี่ยวันละ 350 ราย ของไทยอยู่ที่ 250 ราย มีความสอดคล้องกับข้อมูลการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ของไทย ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 28 ในขณะที่เวียดนาม เพิ่งฉีดได้ร้อยละ 15 ฉะนั้น ผลของวัคซีนเป็นส่วนสำคัญที่ลดการเสียชีวิต

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ผลการวัดระดับภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตา ของอาสาสมัครที่ฉีดวัคซีนแต่ละสูตร ที่ระดับร้อยละ 50 พบว่า การฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ร้อยละ 24.31 ซึ่งใกล้เคียงกับการฉีดเข็มที่ 1 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า และตามด้วยซิโนแวค ก็ได้ภูมิไม่ค่อยต่าง แต่หากเป็นการฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยซิโนฟาร์มที่เป็นเชื้อตายเหมือนกัน ภูมิฯ เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าของการฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ส่วนการฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม ภูมิฯ ขึ้น ร้อยละ 76.5 ซึ่งวิธีเทียบเคียงจากสถิติของประเทศอังกฤษ ในประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต สูงเกินกว่าร้อยละ 90 จึงเอามาเป็นหลักเทียบเคียงกับสูตรวัคซีนอื่นๆ ได้ ปรากฏว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าฯ ให้ภูมิฯเท่าๆ กับฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม อยู่ที่ร้อยละ 76.6 ขณะที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม กระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ ภูมิฯสูงถึงร้อยละ 271 ซึ่งมากกว่าการฉีดซิแวค 2 เข็ม ถึง 10 เท่า ข้อมูลนี้เป็นการฉีดในบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงที่ยังไม่มีวัคซีนไฟเซอร์ในประเทศไทย ก็ส้รางความมั่นใจว่าจะมีภูมิสู้กับเดลตาได้

“ส่วนประชาชนในเข็มที่ 3 ก็มีแนวโน้มหาทางเอามากระตุ้นให้ หากมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แพร่หลาย คาดว่าปีหน้าก็จะมีการเพิ่มในส่วนนี้ แต่ต้องดูพัฒนาการของวัคซีน หากมีสูตรใหม่มา แล้วได้ฉีดในปีหน้าก็จะเป็นผลดีขึ้นไปอีก” นพ.เฉวตสรร กล่าวและว่า ทั้งนี้ แอสตร้าฯ มีแนวโน้มการส่งมอบให้ครบ 61 ล้านโดส ในปลายปี 2564

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 24 ส.ค. 64 สะสม 28,197,659 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 21,231,498 ราย คิดเป็น 29.5% ส่วนคนที่ได้รับครบ 2 เข็ม จำนวน 6,405,537 ราย คิดเป็น ร้อยละ 8.9 อย่างไรก็ตาม สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สูตรต่างๆ สำหรับประชาชนไทย จะแบ่งเป็น 1. กลุ่มเป้าหมายประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ผู้สูงอายุ ผู้มีกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 โรค หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยจะมี 2 สูตร คือ สูตรที่ 1 เป็นวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์เป็นสูตรหลัก หรืออาจมีบางกรณีที่จำเป็นทางการแพทย์ หรือเข็มที่ 1 เป็นแอสตร้าฯ อยู่แล้วก็จะเป็นสูตรที่ 2 คือ วัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม ห่างกัน 12 สัปดาห์

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า 2. กลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปีที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป จะได้วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ 3. กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 1. ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม ให้วัคซีนไฟเซอร์ หรือแอสตร้าฯ กระตุ้น 1 เข็ม 2. ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม หรือแอสตร้าฯ 1 เข็ม ให้วัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดสตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก 3. วัคซีนซิโนแวค เข็มแรก และตามด้วยแอสตร้าฯ เข็มที่ 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์ (สูตรไขว้) 4. วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ และ 5.วัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม ห่างกัน 12 สัปดาห์

“ดังนั้น การกระจายของวัคซีนที่ผ่านมา ในส่วนไฟเซอร์ยังมุ่งเน้น 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม และในรอบต่อไปของไฟเซอร์ที่จะมา 20 ล้านโดส และเพิ่มอีก 10 ล้านโดส เป็น 30 ล้านโดส ก็จะทยอยส่งมอบ ส่วนซิโนแวค 12 ล้านโดส ก็จะมาไขว้กับแอสตร้าฯ ได้พอดี ดังนั้น ผู้ที่สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องการฉีดวัคซีน โดยการติดตามอาการไม่พึงประสงค์กรณีการฉีดไขว้ ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมของการฉีดวัคซีนแต่ละตัว แต่ละเข็ม ซึ่งเมื่อไปฉีดบุคลากรทางการแพทย์จะให้ข้อแนะนำ อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าสูตรทางเลือกก็จะสำหรับบางคนที่มีอาการแพ้ หรือไม่เหมาะกับวัคซีนแต่ละชนิด” นพ.เฉวตสรร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น