ก.สาธารณสุข เผยผลการศึกษาการฉีดวัคซีนไขว้ชนิดจะมีภูมิคุ้มกันได้เร็วและสูงกว่า ซิโนแวค 2 เข็ม หรือ แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม 3 เท่า โดยใช้เวลาฉีดเพียง 3 สัปดาห์ รัฐบาลจัดหาวัคซีนทุกชนิด ทั้งไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค ฉีดให้ประชากรตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส ภายในปี 2564
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด 19 รักษาหายกลับบ้านได้ 22,208 ราย ผู้ติดเชื้อใหม่ 20,902 ราย เสียชีวิต 301 ราย ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อที่ตกค้างจากเดือนมิถุนายน 4 ราย กรกฎาคม 26 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์
นายแพทย์เฉวตสรร กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 เพื่อฉีดครอบคลุมประชากรโดยเร็วที่สุด ขณะนี้ จำนวนวัคซีนที่อยู่ในแผนการส่งมอบประมาณ 83-84 ล้านโดส โดยในไตรมาส 4 วัคซีนของ Johnson and Johnson ที่เจรจาไว้ไม่สามารถจัดส่งให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยได้ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตมีปัญหาในกระบวนการผลิต ส่วนแอสตร้าเซนเนก้าสามารถส่งได้ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน จึงต้องจัดหาวัคซีนให้ได้เดือนละประมาณ 10 ล้านโดส เป็นวัคซีนทุกชนิดที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และส่งมอบได้ในช่วงเวลาที่กำหนด จึงได้สั่งไฟเซอร์และซิโนแวคเพิ่มเติมให้ครบตามเป้าหมาย ประกอบกับมีผลการศึกษาว่า การฉีดวัคซีนไขว้ชนิด เข็มที่ 1 ซิโนแวค และเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า จะมีภูมิคุ้มกันสูงและเร็ว กว่าฉีดซิโนแวค 2 เข็ม หรือแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มถึง 3 เท่า และใช้เวลาฉีดครบทั้ง 2 เข็มเพียง 3 สัปดาห์ จะทำให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรได้เร็วขึ้น
“ขอให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพวัคซีน ซึ่งมีการศึกษาในสถานการณ์จริงจากการติดเชื้อในบุคลากรการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนและไม่ฉีดวัคซีน พบว่า ซิโนแวค 2 เข็ม สามารถป้องกันการเสียชีวิตและป่วยหนักได้ 98% ป้องกันการติดเชื้อได้ 72% อย่างไรก็ตาม แม้จะฉีดวัคซีนแล้วการดูแลตัวเองยังจำเป็น ให้คิดเสมอว่าคนรอบตัวและตัวเรามีเชื้อแฝงอยู่ ขอให้เข้มงวดการใส่หน้ากากอนามัย อยู่ห่าง ล้างมือ ถือเป็นมาตรการสำคัญที่ป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างกัน” นายแพทย์เฉวตสรร กล่าว