จากกรณีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวข้อมูลการเดินทางไปยังประเทศไอร์แลนด์ กับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ครบโดส แต่สถานฑูตต่างประเทศไม่รับรอง ซึ่งระบุล็อตที่ผลิตในประเทศไทยถือว่าไม่ได้ฉีดนั้น ทางกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวโดยแบ่งออกเป็น 3 ประเด็น คือ
1. การรับรองวัคซีนของบริษัท AstraZeneca โดยบริษัท AstraZeneca ได้ยื่นขอรับรองวัคซีนของบริษัทฯ กับองค์กร ยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicine Agency - EMA) เฉพาะวัคซีนจากแหล่งผลิตที่มีแผนจะใช้ในสหภาพยุโรปเท่านั้น (โดยใช้ชื่อว่า Vaxzevria) และได้รับการรับรองโดย EMA ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ซึ่งขณะนี้สิงหาคม 2564 บริษัท AstraZeneca อยู่ระหว่างการยื่นขอการรับรองวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทย และแหล่งผลิตอื่นกับ EMA และองค์การอนามัยโลก (World Health Organization - WHO) ทั้งนี้บริษัท AstraZeneca ยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทมีคุณภาพเท่าเทียมกันในทุกแหล่งการผลิต และเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 บางประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ผ่อนปรนมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุขให้กับผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในไทย เช่นเดียวกับผู้ที่ฉีดวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตจากแหล่งอื่น แม้ว่าวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตจากไทยยังอยู่ในกระบวนการขอรับการรับรองจาก EMA และ WHO ในขณะที่บางประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เช่น ไอร์แลนด์ ยังยึดเกณฑ์วัคซีนที่ได้รับการรับรองจาก EMA หรือ WHO เท่านั้น
2. มาตรการของไอร์แลนด์
ผู้ที่จะเดินทางเข้าไอร์แลนด์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนที่รับรองโดย EMA โดยมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าฉีดวัคซีนดังกล่าวแล้ว หรือมีหลักฐานการรักษาหายจากการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ภายในระยะเวลา 180 วันที่ผ่านมา จะได้รับการยกเว้นการกักกันโรค และยกเว้นการตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางถึงไอร์แลนด์ ทั้งนี้ ต้องฉีดวัคซีนโดสสุดท้ายก่อนเดินทางมาถึงไอร์แลนด์ตามเวลาที่กำหนด ดังนี้ Pfizer-BioNtech (ครบ 2 โดส 7 วันก่อนเดินทาง) Moderna (ครบ 2 โดส 14 วันก่อนเดินทาง) และ Johnson & Johnson/Janssen ( 1 โดส 14 วันก่อนเดินทาง)
ซึ่งผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนที่ยังไม่ได้รับการรับรองโดย EMA เช่น AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทย จะต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางถึงไอร์แลนด์ และเข้ารับการกักกันโรค 14 วัน และหากได้รับการตรวจเชื้อในวันที่ 5 นับจากวันที่เดินทางถึงไอร์แลนด์และมีผลเป็นลบ จะถือว่าการกักกันโรคสิ้นสุดลง ทั้งนี้ ผู้เดินทางเข้าไอร์แลนด์จากต่างประเทศต้องกรอก Passenger Locator Form ก่อนเดินทางด้วย
นอกจากมาตรการเข้าเมืองแล้ว ทางการไอร์แลนด์ยังใช้มาตรการด้านสาธารณสุขภายในประเทศที่เชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีน กล่าวคือ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนจะได้รับเอกสารรับรองอิเล็กทรอนิกส์เรียกว่า EU Digital COVID Certificate (DCC) หรือบัตร HSE Vaccination Card โดยผู้ใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ และศูนย์อาหาร จะต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีคซีนอย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้นจึงจะเข้าใช้บริการได้ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขซึ่งรวมถึงการล้างมือ การว้นระยะห่าง และการสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิด
3. ภาพรวมมาตรการประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หลายประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปผ่อนปรนมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุขสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสที่กำหนด เช่น การแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบ และการกักกันโรค เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศสมาชิกมีข้อกำหนดเกี่ยวกับชนิดและรายละเอียดของวัคซีนที่แตกต่างกัน
โดยเกณฑ์การฉีดวัคซีนที่แต่ละประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปใช้เพื่อผ่อนปรนมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุขในการเดินทางเข้าประเทศมีหลายรูปแบบ บางประเทศใช้เกณฑ์วัคซีนที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรยาแห่งสหภาพยุโรป EMA เพียงอย่างเดียว บางประเทศใช้เกณฑ์วัคซีนที่ได้รับการรับรองจาก EMA หรือองค์การอนามัยโลก WHO และบางประเทศใช้เกณฑ์ของตนเอง
ซึ่งมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุขของแต่ละประเทศเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง ผู้เดินทางจึงจำเป็นต้องตรวจสอบมาตรการของประเทศที่ต้องการจะเดินทางไปอย่างใกล้ชิด
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกกระทรวงการต่างประเทศ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.mfa.go.th หรือโทร 02 2035000