xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตต่อเนื่อง! ตรวจผ่าน ATK เจอ 4,009 กทม.ยอดพุ่งขึ้น 4,140 ดับยังสูง 78 คน แจ้งผู้ติดเชื้อโทร.โดยตรง 1330 เพื่อรับการรักษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค. เผย ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 20,920 ราย กำลังรักษาอยู่ 213,910 ราย ผู้เสียชีวิตวันนี้พบตั้งครรภ์ 2 ราย กทม.ยังป่วยสูง 4,140 ราย ดับ 78 คน ใช้ ATK ตรวจได้มากขึ้น พบเพิ่ม 4,009 ราย ล่าสุด ผ่าน อย.แล้ว 17 ยี่ห้อ ย้ำขอให้ประชาชนควรซื้อกับร้านขายยาเท่านั้น แจ้งหากพบว่าติดเชื้อโควิดให้โทร.หา 1330 โดยตรง ส่วน 1669 ขอสงวนไว้สำหรับสายด่วนช่วยชีวิตเป็นหลัก เพื่อลดความหนาแน่น และให้ผู้ป่วยสีแดงเข้าระบบได้เร็วขึ้น

วันนี้ (5 ส.ค.) เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,920 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 20,658 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 262 ราย สะสม 688,010 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 17,926 ราย สะสม 473,951 ราย กำลังรักษาอยู่ 213,910 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 87,150 ราย และโรงพยาบาลสนาม 126,760 ราย (โรงพยาบาลสนาม 71,879, Home / Communty Isolation 46,330, อื่นๆ/ไม่ระบุ 8,551) เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,993 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,058 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 160 ราย รวมเสียชีวิต 5,663 คน

ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 20,920 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 17,312 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK 4,009 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 3,338 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 262 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 8 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 160 ราย ชาย 90 ราย หญิง 70 ราย กทม. 78 ราย สมุทรปราการ ปทุมธานี จังหวัดละ ราย นนทบุรี นครสวรรค์ จังหวัดละ 7 ราย สมุทรสาคร ปัตตานี ชลบุรี จังหวัดละ 6 ราย ระยอง 4 ราย ร้อยเอ็ด เพชรบูรณ์ ตาก จังหวัดละ 3 ราย กาฬสินธุ์ นครราชสีมา สกลนคร จังหวัดละ 2 ราย สงขลา สงขลา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครพนม บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี ชัยนาท อุทัยธานี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ราชบุรี สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มี 2 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ กทม., ฉะเชิงเทรา ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อคนในครอบครัว จากคนอื่นๆ อายุค่ากลาง 63 ปี อายุน้อยสุด 12 ปี อายุมากสุด 95 ปี เป็นชาวไทย 158 เมียนมา 2 ราย

สถานการณ์ในประเทศแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นทั้งใน กทม.- ปริมณฑล และต่างจังหวัด ผู้ป่วยใน ต่างจังหวัด 60% กทม. ปริมณฑล 40%

10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 5 ส.ค. 2564 คือ 1. กรุงเทพมหานคร 4,140 ราย 2. สมุทรปราการ 1,326 ราย 3. ชลบุรี 1,311 ราย 4. สมุทรสาคร 1,279 ราย 5. นนทบุรี 754 ราย 6. นครราชสีมา 565 ราย 7. สระบุรี 494 ราย 8. ปทุมธานี 463 ราย 9. ฉะเชิงเทรา 449 ราย 10. พระนครศรีอยุธยา 427 ราย

สถานการณ์ กทม. ยอดพุ่งไปถึง 4,140 ราย ซึ่งมีการใช้ ATK ตรวจได้มากขึ้น โดยอย.ขึ้นทะเบียนแล้ว 2 แบบ คือ แบบที่เจ้าหน้าที่ใช้ และที่ประชาชนใช้งาน ซึ่งได้มีการขึ้นทะเบียนกับทาง อย.ไว้แล้ว สำหรับประชาชนที่จะหามาใช้งาน ควรซื้อกับร้านขายยาเท่านั้น เพื่อให้ได้ชุดตรวจที่ได้มาตรฐาน ย้ำ ชุดตรวจ Rapid test นั้นจะต้องเป็น Antigen ใช้ในการตรวจสำหรับประชาชนแนะนำเป็นแบบเก็บตัวอย่างในโพรงจมูก ซึ่งผ่าน อย.แล้ว 17 ยี่ห้อ ควรใช้การเก็บตัวอย่างที่ถูกต้องด้วย แนะนำดูวิดีโอสาธิตได้ที่เว็บกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีการอบรมการใช้ ATK ในสถานประกอบการ สำหรับสถานประกอบการ จะมีการเปิดการอบรม การตรวจ ATK ซึ่งจะมีการเปิดให้สมัครเข้ามาได้ในรุ่นต่อไป ขอย้ำประชาชนเลือกชนิดให้ถูกต้อง (Antigen Test Kits) และได้มาตรฐาน ที่ อย. รับรอง เพื่อผลการตรวจที่ถูกต้อง

สำหรับกลุ่มที่ควรจะตรวจกลุ่มที่มีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ (PUI Case) ซึ่งในกลุ่มนี้ พบผู้ป่วยใน กทม. ราว 25% ของการตรวจ กลุ่มผู้มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย ประวัติเดินทางในพื้นที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในโรงงาน, ขายของในตลาด, ส่งอาหาร ซึ่งหากผลตรวจเป็นลบ อาจจะเป็นผลลบลวงได้ เพราะพบราว 13% ที่ตรวจด้วย ATK แล้วเป็นลบ แต่ตรวจ RT-PCR แล้วพบเชื้อ ดังนั้น ผู้ที่เสี่ยงแม้ตรวจไม่พบ ขอให้กักตัว และตรวจซ้ำใน 2-3 วัน ซึ่งอาจจะเกิดจากเชื้อยังน้อย ทำให้ชุดตรวจไม่ไวพอที่จะตรวจพบได้ ผลการตรวจ ATK ใน กทม. มีบางครั้งที่พบผลบวกสูงถึง 20% หากพบผลเป็นบวก อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ให้ลงทะเบียนเข้าระบบก่อน หรือหากตรวจที่ รพ./สถานบริการ ให้ประสานกับที่จุดตรวจก่อน กรณีตรวจที่อื่น ติดต่อ 1330 หรือ ลงทะเบียนผ่าน https://crmsup.nhso.go.th

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ขอย้ำเบอร์หลักสำหรับผู้ติดเชื้อติดต่อ คือ 1330 ส่วนเบอร์ 1669 ขอสงวนไว้สำหรับสายด่วนช่วยชีวิตเป็นหลัก เพื่อลดความหนาแน่น ให้ผู้ป่วยสีแดงเข้าระบบได้เร็วขึ้น โดยผู้ป่วยโควิดที่ติดต่อ 1330 ให้เตรียมเลขบัตรประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ สำหรับติดต่อ, ส่งยา ฯลฯ เตรียมผลการตรวจไว้ในมือ ซึ่งจะช่วยร่นเวลาในการติดต่อได้เร็วขึ้น ระบบจะมีการจับคู่สายกับศูนย์บริการให้อัตโนมัติ ระบบจะส่งข้อมูลเข้าระบบ ที่จะจับคู่ผู้ป่วย-ศูนย์บริการให้ ภายใน 24ชม. จะมี จนท.ติดต่อกลับ สำหรับผู้ป่วยสีเขียว = แยกกัก, สีเหลือง-แดง = จะเร่งจัดหาเตียงให้ทันที ส่วนผู้ที่เข้า Home isolation จะได้รับชุดเบื้องต้น สำหรับผู้ป่วย สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ จะมีการประเมินอาการก่อนจ่ายให้ เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีจำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัส โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องรับยาแต่อย่างใด ย้ำ ยาฟาวิพิลาเวียร์มีเพียงพอ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้าน ก็จะส่งตัวไปยังCommunity Isolation แทน ในกทม. มีเร่งดำเนินการเพิ่มเติมต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่กักตัว นอกจากประเมินสุขภาพร่างกายแล้ว สามารถประเมินสภาพจิตใจ ได้ที่ https://checkin.dmh.go.th


ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 664,442 ราย หายป่วยสะสม 446,306 ราย เสียชีวิตสะสม 5,569 ราย

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 200,989,081 ราย อาการรุนแรง 93,601 ราย รักษาหายแล้ว 180,990,112 ราย เสียชีวิต 4,270,029 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 36,176,471 ราย
2. อินเดีย จำนวน 31,810,782 ราย
3. บราซิล จำนวน 20,026,533 ราย
4. รัสเซีย จำนวน 6,356,784 ราย
5. ฝรั่งเศส จำนวน 6,207,416 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 40 จำนวน 693,305 ราย
























กำลังโหลดความคิดเห็น