xs
xsm
sm
md
lg

ประธานบริษัทแอสตร้าฯ ทำ จม.เปิดผนึกแจงส่งมอบวัคซีนให้ไทย 5-6 ล้านโดสต่อเดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ทำ จม.เปิดผนึกถึงคนไทย ชี้แจงวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทเป็น "ชีววัตถุ" มีข้อจำกัดการผลิตที่ซับซ้อน แต่จะส่งมอบให้ไทยได้ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน เผยส่งมอบแล้ว 9 ล้านโดส และส่งมอบอีก 2.3 ล้านโดสสัปดาห์หน้า

วันนี้ (24 ก.ค.) นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ทำจดหมายเปิดผนึกชี้แจงว่า ขณะที่ทั่วประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และในฐานะตัวแทนของแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศไทยขอแจ้งให้ท่านทราบถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่เพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกคนและยับยั้งการแพร่ระบาดนี้
พวกเราทุกคนที่แอสตร้าเซนเนก้ามีความกังวลและเป็นห่วงกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเราได้มีการหารือกับกรมควบคุมโรคมาโดยตลอดเกี่ยวกับผลกระทบจากการกลายพันธุ์ของไวรัส และแนวทางที่แอสตร้าเซนเนก้าจะสามารถช่วยสนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้

"ขอยืนยันกับทุกคนว่าสิ่งที่แอสตร้าเซนเนก้าให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในขณะนี้ คือ การเร่งผลิตและส่งมอบวัคซีนที่มีคุณภาพเพื่อปกป้องคุณและคนที่คุณรักให้ได้โดยเร็วที่สุด เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถ" จดหมายเปิดผนึกฯ ระบุ
วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเป็น "ชีววัตถุ" ที่เริ่มต้นด้วยการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่เป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิต จึงมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน จำนวนเซลล์ที่สามารถนำไปใช้เพื่อการผลิตวัคซีนในแต่ละรอบการผลิตจึงมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตระยะแรกจากศูนย์การผลิตวัคซีนแห่งใหม่ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่เราคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดสรรวัคซีนให้กับประเทศไทยได้โดยเฉลี่ย 5-6 ล้านโดสต่อเดือน 
 
จนถึงขณะนี้แอสตร้าเซนเนก้าได้ส่งมอบวัคซีนให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 9 ล้านโดส และมีกำหนดส่งมอบอีก 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า รวมเป็นยอดส่งมอบ 11.3 ล้านโดส ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากแผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทย 
 
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์เดลตา เราพยายามอย่างสุดความสามารถและเสาะหาทุกวิถีทางที่จะเร่งการผลิตและส่งมอบวัคซีนให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรผู้ผลิตอย่างสยามไบโอไซเอนซ์ เราได้พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และเรามั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบวัคซีนได้มากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 
 
นอกจากนี้ เรายังได้พยายามจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากศูนย์การผลิตของแอสตร้าเซนเนก้าทั่วโลกกว่า 20 แห่ง เพื่อส่งมอบวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะขาดแคลนวัคซีนป้องกันโควิด-19 การขาดแคลนวัตถุดิบและส่วนประกอบที่จำเป็นในการผลิตวัคซีน ส่งผลให้เราไม่สามารถคาดการณ์จำนวนการผลิตที่แน่นอนได้ แต่เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมมาให้กับคนไทยได้ในเดือนต่อๆ ไป 
 
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดของยุค พวกเราทุกคนที่แอสตร้าเซนเนก้าตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการช่วยคลี่คลายวิกฤตนี้ พนักงานของเรารวมไปถึงพนักงานของพันธมิตรด้านการผลิตหลายพันชีวิตต่างอุทิศกำลังและเวลาช่วงปีที่ผ่านมาอย่างเต็มความสามารถในการผลิตและส่งมอบวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้ามีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดนี้ โดยไม่หวังผลกำไร เพราะเราเชื่อว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าการจัดหาวัคซีนในช่วงที่มีความต้องการเร่งด่วนนี้จะหนักเกินกว่าที่จะรับมือโดยลำพัง แต่เราจะไม่หยุดพักจนกว่าทุกคนจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เราต้องร่วมสู้วิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน 
 
นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คนไทยทั้งประเทศได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่แข็งแกร่งและความมีน้ำใจ พร้อมที่จะยื่นมือช่วยเหลือกันในยามยาก จากผลสำรวจที่ระบุว่า กว่า 1 ใน 3 ของคนไทย รวมถึงพนักงานของเราในประเทศไทยได้ร่วมบริจาคเงิน อาหาร หรือสิ่งของเพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในช่วงการระบาด ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยทั้งในชุมชนและในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ การจะผ่านพ้นมหาวิกฤตโควิด-19 ได้นั้น เราทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทยแต่รวมถึงทุกประเทศทั่วโลกด้วย 
 
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ประเทศบ้านพี่เมืองน้องของเราทั่วอาเซียนก็มีการประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง พร้อมกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ข้อมูลจากการใช้วัคซีนล่าสุดจากประเทศแคนาดาแสดงให้เห็นว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อรุนแรงในระดับที่ต้องเข้านอนรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้มากถึง 87% ดังนั้นวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งกับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 
 
พวกเราทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในทุกที่ เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปอย่างไร้พรมแดน ดังนั้นหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านยังคงทวีความรุนแรงก็ถือเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยด้วยเช่นกัน หนทางเดียวที่จะยุติการแพร่ระบาดนี้ได้คือ ความร่วมมือร่วมใจกันของพวกเราทุกคน








กำลังโหลดความคิดเห็น