รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้โรงพยาบาลบุษราคัมเพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วยหมุนเวียนอย่างน้อย 50-100 เตียง ในโซนพักผ่อน รับผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุกของคาราวานรถฉุกเฉินของ สพฉ. นำผู้ป่วยตกค้างตามบ้านในพื้นที่ กทม.เข้ารับการตรวจหาเชื้อและเข้าระบบการรักษา ลดความสูญเสียภายในบ้าน
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลบุษราคัม ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงาน และให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ขณะนี้การแพร่ระบาดยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงและติดได้ง่าย ความรุนแรงของอาการเร็วขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มศักยภาพให้โรงพยาบาลบุษราคัมมีความพร้อมทั้งอุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์ ห้องไอซียู และห้องแยกความดันลบ เป็นต้น ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลหลักได้เป็นอย่างดี
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลบุษราคัมรับผู้ป่วยค่อนข้างมาก อัตราการครองเตียงมากกว่าร้อยละ 95 โดยในแต่ละวันจะมีผู้ป่วยหายกลับบ้านได้ ทำให้สามารถหมุนเวียนรับผู้ป่วยใหม่เข้าระบบรักษาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ได้สั่งการให้ขยายพื้นที่ในโซนพักผ่อน เพิ่มจำนวนเตียงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อรองรับผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละวันจากการค้นหาเชิงรุกใน กทม. อย่างน้อยมีเตียงหมุนเวียน 50-100 เตียง เพื่อลดปัญหาการรอเตียง และการเข้าไม่ถึงระบบบริการ รวมถึงลดการสูญเสียในบ้าน ช่วยแบ่งเบาภาระให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) ประสานจัดเตรียมรถพยาบาลรถฉุกเฉิน รถกู้ภัย จัดทีมคาราวานฉุกเฉิน ลงพื้นที่ร่วม กทม. นำผู้ป่วยที่ตกค้างที่เข้าไม่ถึงระบบบริการ อาทิ ริมถนน อยู่ในบ้านที่หาเตียงไม่ได้ นำส่งโรงพยาบาลบุษราคัม ทุกรายจะได้รับการตรวจเชื้อด้วย RT PCR ก่อนคัดแยกเพื่อให้การรักษาที่เหมาะสม หากผลบวกจะรับไว้รักษา แต่หากผลลบจะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นๆ ตามอาการ ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ใช้ช่วงเวลาที่มีมาตรการล็อคดาวน์ได้อย่างเต็มที่และให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เริ่มดำเนินการได้ทันทีที่มีความพร้อม
“สถานการณ์เช่นนี้ไม่มีใครอยากเห็นการสูญเสีย ไม่ว่าจะพื้นที่ กทม. หรือพื้นที่ใดๆ ก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขจะพยายามเข้าไปช่วยเหลือแบ่งเบาภาระอย่างเต็มที่ ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนทุกคน แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าเหนื่อยก็ตามยังคงทำงานกันอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่ถดถอยและยังทุ่มเทกับการให้การรักษาพยาบาลรักษาชีวิตของผู้ป่วยทุกคน” นายอนุทิน กล่าว
สำหรับโรงพยาบาลบุษราคัมได้เปิดรับผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม จนถึง 22 กรกฎาคม 2564 รวม 10,739 ราย รักษาหายกลับบ้านรวม 7,226 ราย ส่งรักษาต่อ 257 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3,167 ราย