กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ให้ความร่วมมือกับมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง หรือ Work From Home ให้มากที่สุด พร้อมเผยมีเพียงบางหน่วยงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด พร้อมคุมเข้มความปลอดภัยในหน่วยงาน ให้ทุกคนประเมินความเสี่ยงผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” ก่อนปฏิบัติงาน ทุกวัน ยืนยันสามารถดำเนินการ Work From Home ได้เพิ่มมากขึ้น
วันนี้ (13 ก.ค.) นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพและโฆษกกรมอนามัย เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อออนไลน์ โดยระบุว่า มีหน่วยงานของกรมอนามัยไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง หรือ Work From Home ให้มากที่สุดนั้น ซึ่งนับจากที่มาตรการดังกล่าวออกมาตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 กรมอนามัยได้ถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยให้หน่วยงานใช้การปฏิบัติงานในลักษณะ Work From Home ให้มากที่สุด และไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่สำคัญ และการบริการประชาชน เป็นการช่วยลดความเสี่ยงโควิด-19 ที่รัฐบาลได้ยกระดับการป้องกันที่เข้มข้นเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยภารกิจที่เร่งด่วนของบางหน่วยงานที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ จึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้ง ของหน่วยงาน แต่ยังคงดำเนินการภายใต้มาตรการความปลอดภัย โดยให้ประเมินความเสี่ยงก่อนปฏิบัติงานทุกวันผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” เพื่อลดความเสี่ยงแก่เพื่อนร่วมงาน ควบคู่กับการปฏิบัติตนตามมาตรการของ กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทั้งการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือเป็นประจำ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่าทุกหน่วยของกรมอนามัยจะได้ดำเนินการตามมาตรการ Work From Home ได้เพิ่มมากขึ้น
“ทั้งนี้ สำหรับผู้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งหรือที่บ้าน Work Form Home กรมอนามัยยังคงเน้นย้ำให้ ปฏิบัติตนเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้ 1) หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลอื่น ไม่คลุกคลีกับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เว้นระยะห่างต่อกัน หมั่นล้างมือ และถ้าจำเป็นต้องใกล้ชิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 2) สังเกตอาการตัวเอง และวัดไข้ทุกวัน หากมี ไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจ ตาแดง ผื่นแดง ถ่ายเหลว ให้รีบปรึกษาแพทย์หรือ ไปพบแพทย์ทันที 3) ประเมินตนเองผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” 4) ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า 5) โต๊ะทำงานที่บ้านควรอยู่ในบริเวณที่โปร่ง โล่ง ไม่อยู่ใกล้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ควรเปิดประตูหน้าต่าง เพื่อให้มีการระบายอากาศสู่ภายนอกเป็นระยะ และ 6) หมั่นทำความสะอาดบ้าน ที่พักอาศัย อุปกรณ์ และบริเวณที่มีผู้สัมผัสร่วมกัน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ห้องน้ำด้วยน้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำผสมน้ำยาฟอกขาว หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.5 เปอร์เซ็นต์ หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ รวมถึง ของใช้ส่วนตัว เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และควรแยกทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว มัดถุงให้เรียบร้อย รวมทั้งซักทำความสะอาดหน้ากากผ้าทุกวันและตากแดดให้แห้งก่อนใช้งานทุกครั้ง” โฆษกกรมอนามัย กล่าว