xs
xsm
sm
md
lg

เสนอแล้ว! สธ.งัดยาแรงชง “ล็อกดาวน์” พื้นที่เสี่ยง-กันชน จำกัดการเดินทาง-ปิดสถานที่เสี่ยง 14 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ. ชง ศบค. ล็อกดาวน์ 14 วัน คุมโควิด-19 แพร่ระบาดให้มาตรการเท่า เม.ย. 63 จำกัดการเดินทาง-ไม่ออกจากเคหสถาน เว้นไปหาอาหาร พบแพทย์ ฉีดวัคซีน-ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด-ปิดสถานที่เสี่ยงทั้งหมดที่ไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เฉพาะในพื้นที่เสี่ยง-กันชน

วันนี้ (8 ก.ค.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า กระทรวงสาธารณสุข เสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค.ยกระดับมาตรการทางสังคม

- จำกัดการเดินทาง อยากให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่สามารถออกไปหาหมอ ฉีดวัคซีนได้
- ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด
- ปิดสถานที่เสี่ยงทั้งหมด
- สามารถเปิดสถานที่จำเป็นได้ เช่น ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต
มาตรการนี้เพื่อลดจำนวนผู้ป่วย จะใช้ในพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่กันชน อย่างน้อย 14 วัน ซึ่งศบค.จะพิจารณาเรื่องพื้นที่และระยะเวลาในการบังคับใช้มาตรการ

อย่างไรก็ตาม จะมีการนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ ศบค.ในวันพรุ่งนี้ และจะมีความเข้มข้นไม่น้อยกว่าเมื่อเดือน เม.ย. 63
ด้าน นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงในอีก 14 วันข้างหน้าและในครั้งนี้ต่างจาก เม.ย. 63 ที่เรามีวัคซีนมาฉีดให้ด้วย ก็จะทำให้ตัวเลขลดลงตามที่กำหนดไว้

สำหรับมาตรการที่ออกมาเพิ่มเติม

การตรวจคัดกรองหาเชื้อด้วยวิธี แรบบิท แอนติเจน เทสต์ ในพื้นที่ที่มีคนตรวจหาเชื้อจำนวนมากวิธีนี้จะรู้ผลได้รวดเร็ว มากกว่าการใช้วิธีอาร์ทีพีซีอาร์ เทสต์ ที่ต้องรอผล 3-5 ชั่วโมง หรือ รู้ผลข้ามวัน ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ก็จะใช้วิธีอาร์ทีพีซีอาร์ เทสต์ได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ การใช้วิธีแรบบิท แอนติเจน เทสต์ จะใช้ในสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องและมีเตียงรองรับ อาจจะเป็นการให้บุคลากรทางการแพทย์ หรือ ผู้ป่วยตรวจเอง หากพบผลว่าเป็นลบ ไม่มีปัญหา แต่หากผลตรวจเป็นบวก อาจจะมีการตรวจซ้ำและส่งต่อรักษาตามระบบ

การเข้าถึงการตรวจ แบบโฮม ยูส จะเป็นการพัฒนาต่อเนื่องในระยะเวลาถัดไป ทำควบคู่กับ Home Isolation และ Community Isolation เป็นการกักตัวผู้ป่วยสีเขียวที่บ้าน ซึ่งการกักตัวแบบ Home Isolation จะลดกฎเกณฑ์ลงจากการกักตัวคนเดียว เป็นการกักตัวแบบครอบครัว ขณะนี้ กำลังเร่งทำระบบ เน้นหนักแนวทางนี้ให้มากขึ้น ขณะที่ กรมการแพทย์กำลังพัฒนา ที่จะส่งผู้ป่วยที่แอดมิท ในวันที่ 10 เดินทางกลับไปกักตัวที่บ้าน เพื่อที่จะลดจำนวนผู้ป่วยและสำรองเตียงให้ผู้ป่วยอาการหนัก นอกจากนี้ เน้นมาตรการส่วนบุคคลขอให้เข้มงวด เป็นลักษณะบับเบิบแอนด์ซีลตัวเอง เพราะการติดเชื้อในรอบนี้ เป็นการติดที่บ้าน ที่ทำงาน เป็นการกระจายเชื้อ ไม่เหมือนเดิมที่เป็นคลัสเตอร์

การเร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยง กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป หากทำได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ จะฉีดได้ประมาณ 1,000,000 โดส มากกว่าร้อยละ 50 ทำให้สิ้นเดือนนี้ น่าจะได้ร้อยละ 60 ใกล้เป้าหมายที่สุด

ทั้งนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีความรุนแรงในขณะนี้ โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาข้อเสนอของฝ่ายสาธารณสุขให้ยกระดับมาตรการต่างๆ ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น